ภาวะ
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 4.23 จุด ลงตามตปท.หลัง Bond Yield กลับมาดีดขึ้น-ขายกลุ่มแบงก์กดดัน
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,652.73 จุด ลดลง 4.23 จุด (-0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 81,426.12 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,655.42 จุด และระดับต่ำสุด 1,641.86 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 514 หลักทรัพย์ ลดลง 1,231 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 484 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลวตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond yield) 10 ปี เมื่อคืนนี้กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง กังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเร่งการสิ้นสุดการทำ QE เร็วขึ้น และเร่งการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย กดดันตลาดหุ้น รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ ที่ปรับตัวดลงตามกันในวันนี้
ขณะเดียวกันยังมีแรงขาย Sell on fact หุ้นกลุ่มแบงก์ออกมากดดัน หลังจากประกาศผลการดำเนินงานออกมาวันนี้อีกหลายธนาคาร เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันดัชนี แม้ว่าจะมีแรงซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประเทศเข้ามาหนุนอยู่บ้างก็ตาม
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ามีโอกาสรีบาวด์และแกว่งตัวไซด์เวย์ เพื่อรอติดตามความชัดเจนของการประชุมเฟด โดยให้แนวต้าน 1,660-1,665 จุด แนวรับ 1,635-1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,567.89 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,367.75 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,680.66 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,573.92 ล้านบาท ปิดที่ 81.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,895.96 ล้านบาท ปิดที่ 130.00 บาท ลดลง 2.00 บาท