ผู้เขียน หัวข้อ: โควิด-19 ลากยาว ดันอีคอมเมิร์ซและการจ่ายเงินออนไลน์โตต่อเนื่อง  (อ่าน 391 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ luktan1479

  • *
  • กระทู้: 1,132
  • Popular Vote : 0
โควิด-19 ลากยาว ดันอีคอมเมิร์ซและการจ่ายเงินออนไลน์โตต่อเนื่อง Pay Solutions รุกหนักเพิ่มบริการใหม่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างนวัตกรรมให้ธุรกิจดิจิทัลไทย

เพย์ โซลูชั่น (Pay Solutions) ผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์แห่งแรกของประเทศไทย นำโดย ป้อม - ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพย์โซลูชั่น จำกัf เผยข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมของ Pay Solutions และผลกระทบในช่วงภาวะวิกฤตโควิด-19 ตลอดจนมุมมองในเรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเงินดิจิทัลปี 2565 และแนวโน้มการใช้ Crypto Payment เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพย์โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า "จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดและระบบเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน หลายธุรกิจต้องปรับตัวเข้าสู่รูปแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหารออนไลน์ หรือการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากจำเป็นต้องมีการชำระเงิน สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ช่องทางการชำระเงิน ที่ต้องพัฒนารูปแบบให้มีความหลากหลายเหมาะกับลูกค้า เช่น การชำระบัตรเดบิต บัตรเครดิต Mobile Banking หรือ Payment Gateway ที่ทำให้การชำระเงินสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดย Pay Solutions มีระบบชำระเงินออนไลน์ที่ครอบคลุมทุกช่องทาง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งมาพร้อมกับบริการใหม่และกำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ ที่ให้ผู้บริโภคสามารถเลือกชำระเงินได้อย่างอิสระและเป็นตัวช่วยให้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น"

สำหรับ Pay Solutions เป็นหนึ่งผู้ให้บริการที่เป็นตัวกลางของการชำระเงินกับระบบ Online Payment รองรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจองค์กร ผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงร้านค้าออนไลน์ในหลากหลายธุรกิจ โดยมีการเติบโตกว่า 40% หรือคิดเป็น 1,650 ล้านบาท ซึ่งป็นรายได้ที่มาจากร้านค้าในระบบทั้งที่เป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรและลูกค้า SMEs และในปีนี้ วางแผนเดินหน้าตอกย้ำความแข็งแกร่ง สร้างความแตกต่างเพื่อตอบสนองลูกค้า และหวังกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างนวัตกรรมให้ธุรกิจดิจิทัลของไทยต่อไปในอนาคต ซึ่งจากข้อมูลการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ของธนาคารแห่งประเทศไทย จะเห็นได้ว่าในปี 2562-2564 การชำระเงินผ่านพร้อมเพย์มีการเติบโตมากถึง 219% โมบายล์แบงกิ้ง 157% และจากฐานข้อมูลของเพย์ โซลูชั่น พฤติกรรมการจับจ่ายของคนในโลกออนไลน์ในช่วงโควิด มีการชะลอการจ่ายเงินสด และหันมาจ่ายในรูปแบบผ่อนชำระ มากขึ้นถึง 84 %

ปัจจุบัน Pay Solutions เห็นถึงความสำคัญของแนวโน้มสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโท เคอร์เรนซี ซึ่งเราในฐานะผู้นำและเป็น "ผู้ให้บริการรายแรก" ของไทยที่เปิดให้บริการรับชำระเงินคริปโท "Crypto Payment" ให้กับธุรกิจต่างๆ โดยเป็นการชำระเงินรูปแบบใหม่และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเพิ่งมีการเปิดทดสอบการให้บริการ โดยความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการแพลตฟอร์มในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล รองรับการชำระได้มากกว่า 350 สกุลเงิน อย่างไรก็ตาม การจ่ายค่าสินค้าหรือบริการด้วยคริปโทผ่าน Pay Solutions ระบบจะทำการเปลี่ยนคริปโทเป็นเงินบาททันทีเพื่อลดความผันผวน และโอนเงินบาทให้กับร้านค้า โดยผู้จ่ายสามารถจ่ายผ่านระบบกระเป๋าคริปโทเมตามาสก์ (Metamask) ผ่านระบบเครือข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ของ Binance Smart Chain (BSC) ที่เป็นที่นิยมกันทั่วโลก ทั้งนี้ Crypto Payment ยังอยู่ในช่วงทดลองให้บริการ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่มีนโยบายสนับสนุนให้นำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ ดังนั้นจึงเปิดทดสอบให้กับร้านค้าและธุรกิจในวงจำกัด มีเกณฑ์การตรวจสอบตามนโยบายรู้จักร้านค้า (Know Your Merchant: KYM) เพื่อป้องกันความเสี่ยงอย่างรัดกุม

และในปีนี้ เราจะมีอีกหนึ่งบริการชำระเงินออนไลน์รูปแบบใหม่ที่จะเปิดตัวให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ ซึ่งได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรสถาบันการเงินชั้นนำ และเครือข่ายชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก มีจุดเด่นอยู่ที่การเพิ่มสภาพคล่องของกระแสเงินสดให้บริษัทด้วยศักยภาพของบัตรเครดิต ตั้งเป้าพัฒนาบริการเพื่อสนับสนุนธุรกิจของไทยและสร้างนวัตกรรมใหม่ของบริการชำระเงินออนไลน์

ในอนาคต Pay Solutions จะมีการพัฒนาบริการระบบการชำระเงินออนไลน์ใหม่ๆ โดยเน้นเชื่อมโยงทุกบริการด้านดิจิทัลที่มีอยู่ประมาณ 40 บริษัทมาบูรณาการ พร้อมผลักดันเข้าสู่อุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการใช้งานจริง และเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการในแต่ละภาคส่วนต่างๆ โดยพัฒนาต่อยอดจากฟีเจอร์เดิมที่ให้บริการอยู่แล้ว อาทิ ระบบจดจำบัตรเครดิต (Tokenizer), API ระบบตัดบัตรอัตโนมัติ (Recurring), Secure payment link, E-Tax invoice, e-Wallet และ Reseller module รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของระบบจัดการ Back-office System, E-Tax invoice report, Fraud monitoring system, System on cloud service เชื่อมต่อ E-Commerce ให้ครอบคลุมตั้งแต่เว็บไซต์ ระบบจัดการร้านค้า ระบบรับชำระเงิน ระบบคลังสินค้า ระบบโลจิสติกส์ Big Data โฆษณาดิจิทัล และระบบปฏิบัติการ เช่น ระบบเอกสาร ระบบบัญชี และระบบงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลตลอดจนการพัฒนาในส่วนของการร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาบริการให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

"ในส่วนของแผนการตลาด เน้นการทำ Online Marketing ให้ครบวงจรมากขึ้น เพื่อนำเสนอบริการใหม่ๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมายลูกค้าองค์กร พร้อมรักษาฐานลูกค้าเดิมกลุ่ม SME และธุรกิจออนไลน์ต่างๆ ไว้ ตั้งเป้าให้แบรนด์และบริการของ Pay Solutions เป็นที่รู้จักมากขึ้น และสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยจะผนึกกำลังร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อส่งมอบสิทธิประโยชน์และประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าต่อไป" นายภาวุธ กล่าวทิ้งท้าย