ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.00 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 32.90-33.10  (อ่าน 351 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.00 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 32.90-33.10 จับตาผลประชุมเฟด-สถานการณ์ยูเครน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.00 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.05 บาท/ดอลลาร์

"บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ ทิศทางน่าจะแกว่งตัวในกรอบรอดูผลประชุมเฟดคืนนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.90 - 33.10 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยที่ต้อง ติดตาม ได้แก่ แรงขายดอลลาร์จากผู้ส่งออกทองคำหลังราคาทองปรับตัวขึ้นมากว่า 10 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์ ความตึงเครียดที่ยูเครน และผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ตลาดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.65 และปีนี้จะมี การปรับดอกเบี้ย 3-4 ครั้ง

THAI BAHT FIX 3M (25 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.36952% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.35194%

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.84 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 114.07 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1305 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1289 ดอลลาร์/ยูโร
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 33.042 บาท/ดอลลาร์
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะนัดหารือกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทาง
เลือก กระทรวงสาธารณสุข การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในภาคการท่องเที่ยว เพื่อพิจารณาแนว
ทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ ไทยแลนด์ เวลเนส แซนด์บ็อกซ์ หลังจากเรื่องนี้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมศูนย์บริหาร
สถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะขยายพื้นที่ในการจัดส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้ได้อย่างน้อย
ภูมิภาคละแห่ง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น
สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลเปิดหน้าไพ่ ขอยกเว้นเก็บภาษีคริปโตเคอร์เรนซี 5 ปี หนุนฟินเทคและสตาร์ตอัพให้เติบโตก่อน เนื่อง
จากการซื้อขายคริปโตเพิ่งเกิดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้าน "อาคม" ย้ำสนับสนุนแต่ต้องกำกับดูแลด้วย ยืนยันเคาะวิธีปฏิบัติ ทั้งการคำณวน
และการผ่อนผันการยื่นภาษีคริปโต ภายในเดือน ม.ค. เพื่อให้ทันกรอบยื่นภาษีปีนี้
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ โดยระบุว่า
ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, ภาวะคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจ
โลกจะมีการขยายตัว 4.4% ในปี 2565 ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ 4.9% ในรายงานเดือนต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากที่มีการขยายตัว 5.9%
ในปี 2564
เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 18.8% ในเดือน
พ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยราคาบ้านยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่
ระดับต่ำ
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่
ระดับ 113.8 ในเดือนม.ค. จากระดับ 115.2 ในเดือนธ.ค. โดยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคถูกกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และการแพร่
ระบาดของโควิด-19
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (25
ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่สกุลเงินยูโรถูก
กดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนในวันอังคาร (25 ม.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึง
เครียดในยูเครนยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ และ
การที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน
นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย หลัง
จากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด และนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก