ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกจากแรงช้อนซื้อ  (อ่าน 336 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ fairya

  • *
  • กระทู้: 1,190
  • Popular Vote : 0
ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกจากแรงช้อนซื้อ นลท.จับตาผลประชุมเฟด

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุนหลังตลาดร่วงก่อนหน้านี้ ขณะจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,024.08 จุด ลดลง 107.26 จุด หรือ -0.40%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,283.31 จุด เพิ่มขึ้น 39.70 จุด หรือ +0.16% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,437.98 จุด เพิ่มขึ้น 4.92 จุด หรือ +0.14%

ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาผลการประชุมของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า คณะกรรมการเฟดจะใช้การประชุมในครั้งนี้เพื่อส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. และคาดว่าเฟดจะพิจารณาใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินในด้านอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการยุติการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่เฟดเคยนำมาใช้เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายมาร์ค คาบานา นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า เฟดจะออกแถลงการณ์ใหม่เพื่อแสดงให้เห็นว่า เฟดมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินเฟ้อ และคาดว่าเจ้าหน้าที่เฟดจะระบุว่า คณะกรรมการเฟดมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Federal Funs Rate) อย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค. แม้การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นเผชิญกับการปรับฐาน (Correction) ก็ตาม

นายคาบานากล่าวว่า การที่ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น อาจทำให้เฟดดำเนินนโยบายยากลำบากขึ้น นอกจากนี้ การที่โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด และการที่รัสเซียขู่ใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน อาจจะทำให้เฟดต้องตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ด้วย

ทางด้านนางไดแอน สวองค์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Grant Thornton กล่าวว่า "สิ่งที่เฟดจะต้องทำก็คือ การพูดให้ชัดว่าจะรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้อย่างไร เฟดควรพูดว่า 'เราจะต้องจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ และสิ่งที่เราเห็นในขณะนี้คือนโยบายการเงินอยู่ในลักษณะผ่อนคลายมากจนเกินไป' ทั้งหมดนี้คือถ้อยแถลงที่เฟดจะสามารถสื่อได้ในเวลานี้"

ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของเอเชียในปีนี้ โดยระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชียเป็นไปอย่างล่าช้า และยังคงกดดันให้บรรดาธนาคารกลางในเอเชียใช้มาตรการเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เม็ดเงินทุนจะไหลออกจากภูมิภาค

ทั้งนี้ IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) เมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) โดยระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียในปี 2565 มีแนวโน้มชะลอตัวลงสู่ระดับ 5.9% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6.3%