ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดบวก 4.35 จุด รับแรงซื้อกลับ  (อ่าน 365 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Naprapats

  • *
  • กระทู้: 931
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดบวก 4.35 จุด รับแรงซื้อกลับหลังสะท้อนปัจจัยลบมากแล้ว-รอลุ้นประชุมเฟด

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,643.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.35 จุด (+0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 85,449.43 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ตลาดฟื้นตัวหลังปรับลงไปรับปัจจัยลบพอควรแล้ว ทำให้มีแรงซื้อกลับทั้งในและต่างประเทศ พร้อมรอลุ้นประชุมเฟดคืนนี้ หากผลไม่แย่กว่าตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งไตรมาสละ 0.25% จะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้มีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ ให้แนวรับที่ 1,630 จุด แนวต้านที่ 1,660 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,643.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.35 จุด (+0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 85,449.43 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,649.82 จุด และระดับต่ำสุด 1,642.07 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 802 หลักทรัพย์ ลดลง 899 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 534 หลักทรัพย์

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้นมาหลังช่วงที่ผ่านมาลงไปตอบรับปัจจัยบลบพอควรแล้ว ทำให้วันนี้ตลาดมีแรงซื้อหุ้นกลับทั้งในตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นไทย โดยมีแรงซื้อสู้กันอยู่บริเวณ 1,630 จุด ระหว่างรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) คืนนี้ โดยหากผลประชุมเป็นไปตามตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง ไตรมาสละ 0.25% ก็คาดว่าสถานการณ์ดีดตัวกลับจากการที่นักลงทุนเข้ามาเก็บหุ้นบ้าง โดยเฉพาะกลุ่ม Growth Stock ที่น่าจะมีแรงซื้อเข้ามา อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

แนวโน้มวันพรุ่งนี้ รอลุ้นผลประชุมเฟดคืนนี้หากเป็นไปตามคาดตลาดฯก็มีโอกาสดีดตัวขึ้นไปต่อได้ เพราะตลาดได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว (Price in) และต้องติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดว่าจะมีประเด็นใหม่หรือไม่ นอกเหนือจากดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ซึ่งหากส่งสัญญาณถึงการลดขนาดงบดุลว่าจะปรับลดเท่าใดและเมื่อใด อย่างไรก็ดี ถ้าถ้อยแถลงของประธานเฟดไม่แย่กว่าที่ตลาดคาด ก็มีลุ้นที่ตลาดปรับตัวขึ้นไปต่อ

โดยให้แนวรับที่ 1,630 จุด ซึ่งเป็นระดับแนวรับที่แข็งแกร่ง แนวต้านที่ 1,660 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,522.86 ล้านบาท ปิดที่ 147.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 5,233.75 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,451.45 ล้านบาท ปิดที่ 4.82 บาท ลดลง 0.02 บาท

SPRC มูลค่าการซื้อขาย 2,379.75 ล้านบาท ปิดที่ 9.60 บาท ลดลง 0.90 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,025.96 ล้านบาท ปิดที่ 125.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท