ผู้เขียน หัวข้อ: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้ 28, 2022  (อ่าน 311 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0
World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้ 28, 2022

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพฤหัสบดีท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตลอดทั้งวัน โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2564 แต่ขณะเดียวกันตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

-- แอปเปิลรายงานยอดขายประจำไตรมาสทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 11% แตะ 1.239 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีงบการเงินปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่า แอปเปิลกำลังพัฒนาบริการใหม่ เพื่อให้สามารถแตะบัตรเครดิตที่ตัว iPhone เพื่อชำระเงินได้ในทำนองเดียวกับเครื่องรูดบัตร

-- คาดตลาดหุ้นเอเชียจะฟื้นตัวขึ้นเช้านี้หลังจากที่ปรับตัวลงเพราะถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยสัญญาฟิวเจอร์ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฮ่องกง ปรับตัวขึ้นตามกัน

-- บริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป รายงานตัวเลขกำไรและรายได้ประจำไตรมาส 4/64 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

-- บริษัทคอมแคสต์ สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานกำไรและรายได้ในไตรมาส 4/64 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 364,530,112 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 5,648,952 ราย

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5.5%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการที่ภาคธุรกิจเพิ่มเติมสต็อกสินค้าคงคลัง

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนออกแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อการที่เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/64 ขณะที่ระบุว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของเขากำลังบรรลุผล

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 30,000 ราย สู่ระดับ 260,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 270,000 ราย

อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงสูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 3.8% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงเพียง 0.2% ในเดือนธ.ค.

การทำสัญญาขายบ้านร่วงลงในทุกภูมิภาค โดยได้รับผลกระทบจากสต็อกบ้านในระดับต่ำ, ราคาบ้านที่พุ่งสูง และการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.9% ในเดือนธ.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 3.2% ในเดือนพ.ย.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานลดลง 0.6% ในเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนต.ค.ได้รับผลกระทบจากภาวะคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน และการขาดแคลนแรงงาน

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ฝรั่งเศสจะรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564 (ประมาณการเบื้องต้น) เวลา 13.30 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยเยอรมนี เวลา 16.00 น.

หลังจากนั้นสหรัฐจะรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนธ.ค. เวลา 20.30 น. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 22.00 น.