ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ รับแรงกดดันเฟดขึ้นดอกเบี้ย  (อ่าน 383 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ รับแรงกดดันเฟดขึ้นดอกเบี้ย-ยูเครนตึงเครียด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ และลุ้นโอกาสการรีบาวด์ได้เล็กน้อย หลังจากเมื่อวานดัชนีปรับตัวลงแรง และตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ส่วนใหญ่กลับมารีบาวด์ขึ้น แต่การปรับตัวขึ้นยังค่อนข้างจำกัด จากแรงกดดันจากแนวโน้มการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากที่เมื่อคืนนี้สหรัฐฯประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 4/64 ออกมาดี

ขณะเดียวกันยังมีความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่มีความชัดเจนออกมา ซึ่งส่งผลกระทบให้นักลงทุนชะลอการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลหนุนต่อทิศทางราคาน้ำมัน ที่ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานได้บ้าง แต่ยังคงต้องติดทิศทางของกระแสเงินทุนว่าต่างชาติและสถาบันจะเป็นอย่างไร และยังคงต้องรอปัจจัยหนุนใหม่ๆเข้ามาหนุนต่ออัพไซด์ของดัชนี

โดยให้แนวต้าน 1,645-1,650 จุด แนวรับ 1,630 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,160.78 จุด ลดลง 7.31 จุด (-0.02%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,326.51 จุด ลดลง 23.42 จุด (-0.54%) และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,352.78 จุด ลดลง 189.34 จุด (-1.40%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 259.55 จุด หรือ +0.99%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 13.34 จุด หรือ +0.39% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 11.94 จุด หรือ +0.05%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ม.ค.) 11,634.17 จุด ลดลง 9.27 จุด, -0.56%
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 719.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ม.ค.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ม.ค.) ปิดที่ระดับ 86.61 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลดลง 74 เซนต์ หรือ 0.9%
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ม.ค.) อยู่ที่ 6.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 33.31 อ่อนค่าหลังดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง คาดกรอบวันนี้ 33.20-33.40
คปภ.เผยเคลมโควิดล่าสุดเฉียด 4.2 หมื่นล้านบาท วงการคาดยอดจ่อพุ่งกระทบฐานะการเงินบริษัทประกัน ขณะที่สมาคมฯเกาะติดโอมิครอนใกล้ชิด "เมืองไทย-วิริยะ" ยันฐานะการเงินแกร่ง ดูแลลูกค้าทุกกรมธรรม์จนจบสัญญา ด้าน "อาคเนย์" เผยยังไม่ปิดกิจการ ลุ้นบอร์ดคปภ.อนุมัติวันนี้
คกก.โรคติดต่อแห่งชาติไม่รอองค์การอนามัยโลกกำหนดเกณฑ์ "โควิด-19" เป็น "โรคประจำถิ่น" เป้าผู้ป่วยใหม่ไม่เกิน 10,000 รายต่อวัน อัตราป่วยตาย 1 ต่อ 1,000 ฉีดวัคซีน 2 เข็มครอบคลุม 80% ประสิทธิภาพระบบสาธารณสุขรองรับได้ ตั้งคลินิกวัคซีนผู้ใหญ่ ให้บริการวัคซีนอายุ 18 ปีขึ้นไปสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จำเป็นให้เสร็จภายในปี 2565 ร้านเปิดดื่มเหล้าแพร่เชื้อ "Target Lockdown" ทันที
"อนุทิน" แจงปลดกัญชาพ้นยาเสพติด สร้างโอกาสทาง ศก.-การแพทย์ "ศุภชัย" กางร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ สยบลือแจ้งปลูกหลังบ้านต้องจ่ายเงินหมื่น ยันปลูกหลังบ้านฟรีไร้ค่าธรรมเนียม
ธปท.หนุนแบงก์ร่วมทุน AMC ตั้งกิจการรองรับการแก้ไขปัญหา NPLs เนื่องจากโควิด-19 กำหนดจัดตั้งใน 3 ปี ดำเนินธุรกิจ 15 ปี
ททท.พร้อมบุกตลาดนักท่องเที่ยวซาอุฯ จับมือสายการบินในตะวันออกกลางทำตลาด แอตต้าประเมินชาวซาอุฯ จะมาไทยเพิ่มอีก 3 แสนคนต่อปี ด้านหอการค้าไทยแนะเอกชนเตรียมต่อยอดธุรกิจ
*หุ้นเด่นวันนี้
TIPH(เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 75.00 บาท "หุ้นประกันสาย M&A ปี 22 เดินหน้าหาดีลใหม่" ผู้แข็งแกร่งจะอยู่รอด TIPH หลังเปลี่ยนเป็น Holding Company พร้อมขยายฐานธุรกิจ ล่าสุดปิดดีล ดีพี เซอร์เวย์ แอนด์ลอว์ และ อะมิตี้ อินชัวร์รันซ์ โบรคเกอร์ ต่อยอดธุรกิจประกันและโบรกเกอร์ประกัน Outlook กลุ่มประกันปี 22 สดใสทั้งในด้านเบี้ยประกันที่เพิ่มขึ้นและจำนวนกรมธรรม์ ส่วนกรณี บ. ประกันหลายแห่งปิดตัวลง เป็นบวกกับ บ. ที่เหลืออยู่ เปิดโอกาสในการได้ลูกค้าใหม่ และลดการแข่งขันด้านราคา
HUMAN (คิงส์ฟอร์ด)"ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 16.00 บาท) ประเด็นบวกการเข้าซื้อกิจการบริษัท DataOn Group ที่เป็น HR Solution Provider เช่นเดียวกับ HUMAN รวมกันแล้วจะทำให้บริษัทขึ้นเป็นผู้นำ HR &ERP ในเอเชีย จากจำนวนประชากรอินโดนีเซียที่มากเป็นอันดับ 4 ของโลก ภายหลังการ synergy บริษัทคาดว่าภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี รายได้ของบริษัทเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% จากปี 65 คาดว่าจะมีรายได้ 40 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้การให้บริการจะเป็นแบบเช่าใช้และกำลังเจรจาลูกค้ารายใหญ่หลายราย โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จาก DataOn ในช่วง 2Q65 ช่วยหนุนอัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
TU (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 30 บาท คาดกำไร 4Q21 -2% Q-Q, +31% Y-Y ดีกว่าที่เคยคาดหนุนจากการทยอยปรับขึ้นราคาสินค้า OEM เพื่อสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้น แม้ 1Q22 จะเผชิญต้นทุนบรรจุภัณฑ์และราคาปลาทูน่าสูงขึ้น แต่คาดเจรจาปรับราคาสินค้ากลุ่ม Branded แล้วเสร็จในเดือน ก.พ. ขณะที่แนวโน้ม Demand สินค้ากลุ่ม Frozen, Pet Care รวมถึง Ambient ยังแข็งแกร่ง โอมิครอนยังกระทบจำกัดต่อธุรกิจหลักของบริษัทยกเว้น Red Lobster ภาพโดยรวมยังสอดคล้องกับประมาณการของเราที่คาดกำไรปกติปี 2021-2022 +13% Y-Y และ +3% Y-Y