นายกฯ กำชับคลังเตรียมระบบให้พร้อม 1 ก.พ.
รองรับลงทะเบียนคนละครึ่ง เฟส 4นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มทุกสาขาอาชีพ จึงสั่งการให้เร่งบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติโครงการ "คนละครึ่ง" ระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากต่อเนื่อง ให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้กับประชาชน จำนวนสิทธิรวม 29 ล้านสิทธิ
"ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ให้เร็วขึ้น จากเดิมที่ได้กำหนดช่วงเดือนมีนาคม แต่นายกฯ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ทุกฝ่ายจึงได้ช่วยกันทำให้โครงการฯ สามารถใช้ได้เร็วขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้ และนายกฯ ยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบระบบให้พร้อมใช้งาน เพื่อช่วยลดภาระประชาชนได้ทันที" นายธนกร กล่าว
สำหรับโครงการ "คนละครึ่ง" ระยะที่ 4 ได้สนับสนุนวงเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และบริการ นวดสปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังกำหนด จากภาครัฐในอัตรา 50% ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน รวมระยะเวลา 3 เดือน จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจำนวนไม่เกิน 29 ล้านคน
ล่าสุด กระทรวงการคลังได้เร่งดำเนินการให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ได้เร็วขึ้น เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 (กลุ่มเดิม) มีจำนวน 27.98 ล้านสิทธิ กลุ่มนี้สามารถกดยืนยันสิทธิในแอพเป๋าตังค์ได้เลย ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป โดยจะต้องเริ่มใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ โดยสิทธิที่เหลืออาจจะนำมาพิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งหากยังประสงค์จะเข้าโครงการฯ จะต้องลงทะเบียนเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ทั้งนี้หากยืนยันสิทธิและใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ครั้งแรกในระยะที่กำหนด สามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565
กลุ่ม 2 ) ผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มให้อีก 1 ล้านกว่าสิทธิ เพื่อให้ครบ 29 ล้านสิทธิ โดยกลุ่มใหม่นี้ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 และสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2565 ซึ่งสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังมีมาตรการช้อปดีมีคืน 2565 ที่ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและค่าบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือหนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2565 (ยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี 2566) ที่ใช้ได้ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยประชาชนที่ใช้โครงการช้อปดีมีคืน ยังสามารถใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ได้ด้วย