ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกตามดาวโจนส์ ขณะบางแห่งปิดเนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (28 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยตลาดได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,981.89 จุด เพิ่มขึ้น 264.55 จุด หรือ +0.99% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,802.26 จุด เพิ่มขึ้น 252.18 จุด หรือ +1.07%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันนี้ ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.-4 ก.พ.นี้
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในญี่ปุ่น ซึ่งล่าสุดนั้นพบผู้ติดเชื้อรายวันทะลุระดับ 70,000 รายติดต่อกัน 4 วัน โดยยอดผู้ติดเชื้อยังทำสถิติใหม่ต่อเนื่องในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ โดยในขณะนี้ ญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะกึ่งฉุกเฉินครอบคลุม 34 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วประเทศ และคาดว่าจะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวเร็ว ๆ นี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจภูมิภาคที่รายงานไปแล้ว กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปี 2564 ปรับตัวขึ้น 5.8% จากปีก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อที่ฟื้นตัวขึ้น และการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก
รายงานระบุว่า การฟื้นตัวของผลผลิตของภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นชะลอตัวลง เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก รวมถึงการระงับการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่น
สำหรับเดือนธ.ค. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 1.0% แตะ 96.5 จากเดือนก่อนหน้า และนับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิตเครื่องจักรอเนกประสงค์และเครื่องจักรเพื่อธุรกิจที่อ่อนแอ เช่น หม้อไอน้ำแบบท่อน้ำ และเครื่องยนต์สันดาปภายใน รวมถึงเครื่องจักรด้านการผลิต เช่น อุปกรณ์ทำชิป
ทั้งนี้ หลังจากทำการสำรวจความเห็นของกลุ่มผู้ผลิตญี่ปุ่น กระทรวงคาดการณ์ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัว 5.2% ในเดือนม.ค. และ 2.2% ในเดือนก.พ. พร้อมระบุว่า ผลผลิตจากโรงงานและเหมืองมีแนวโน้มขยายตัว