ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเกือบทุกกลุ่ม และตลาดหุ้นสำคัญ ๆ ปิดตลาดในแดนบวก หลังนักลงทุนขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 474.86 จุด เพิ่มขึ้น 5.98 จุด หรือ +1.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,099.49 จุด เพิ่มขึ้น 100.29 จุด หรือ +1.43%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,619.39 จุด เพิ่มขึ้น 148.19 จุด หรือ +0.96% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,535.78 จุด เพิ่มขึ้น 71.41 จุด หรือ +0.96%
ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้น หลังจากร่วงลงอย่างหนักในเดือนม.ค.รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 ซึ่งความวิตกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น, แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และความตึงเครียดทางการเมืองฉุดตลาดลง 4%
หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น 2.1% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นยูบีเอส หลังเปิดเผยผลกำไรประจำปีสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก
หุ้นยูบีเอสซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 8% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยพุ่งขึ้น 3.5% ตามราคาทองแดง โดยการคาดการณ์เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในจีนได้ช่วยหนุนราคาโลหะปรับตัวขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นไฮเดลเบิร์กซีเมนต์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2.6% หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาส 4 ดีเกินคาด
หุ้นสเตลแลนทิส ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 2.2% หลังแหล่งข่าวสหภาพเปิดเผยว่า บริษัทจะปรับลดตำแหน่งงานลงราว 1,400 ตำแหน่งในฝรั่งเศสในปีนี้เพื่อปรับตัวตามอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลง
ตลาดยังได้แรงหนุนหลังไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยในวันอังคารว่า กิจกรรมการผลิตของยูโรโซนเติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้นในเดือนม.ค. เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานคลี่คลาย แม้พัฒนาการดังกล่าวจะไม่สม่ำเสมอกันทุกในทุกประเทศสมาชิกยูโรโซน และโรงงานยังคงเผชิญกับแรงกดดันเงินเฟ้อในระดับสูง
ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนแตะที่ 58.7 ในเดือนม.ค. จาก 58.0 เมื่อเดือนธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ 59.0 แต่สูงเหนือระดับ 50 อย่างเด่นชัด ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงมีการขยายตัว
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ