EE ร่วง 8.62% ผู้บริหารเผย
ราคาขายกัญชงยังไม่ชัดเจนกระทบคาดการณ์รายได้-กำไร
ราคาหุ้น EE ลดลง 8.62% มาอยู่ที่ 2.12 บาท ลดลง 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 890.59 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.35 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.28 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 2.28 บาท และราคาลงต่ำสุด 2.04 บาท
นายวรศักดิ์ เกรียงโกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า ทิศทางผลประกอบการของบริษัทในปี 65 นี้ยังคงประเมินได้ยาก เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นของธุรกิจด้านกัญชง และ กัญชา ที่ยังมีความไม่แน่นอนด้านราคาจำหน่ายอยู่ค่อนข้างมากในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะเริ่มเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 1/65 - ไตรมาส 2/65 หลังจากที่ผลผลิตของกัญชงออกมาแล้ว
อนึ่ง สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (TIHTA) เปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น การกำหนดโครงสร้างราคาซื้อ-ขายกัญชง ครั้งที่ 1 ผ่านระบบออนไลน์ จากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกัญชงและผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจทั่วไปเมื่อปลายเดือนม.ค.65 โดยร่วมหาแนวทางโครงสร้างราคากัญชง และกำหนดราคากลางในการซื้อ-ขายกัญชงอย่างยุติธรรม
นายวรศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทจะนำช่อดอกกัญชง และส่วนอื่นๆจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการหลายๆรายที่ได้เซ็นบันทึกข้อตกลง(MOU) ไว้ล่วงหน้าแล้วทั้งที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) และผู้ประกอบการนอกตลาด นอกจากนี้บริษัทยังคงมองหาการดำเนินกิจการทั้งกลางน้ำ และ ปลายน้ำ ต่อไป เพื่อที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกัญชงและกัญชา ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าตลาดประเทศไทยจะมีมูค่าเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ล้านบาท และตลาดโลกจะมีขนาด 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในระยะเวลา 5 ปี
สำหรับการปลูกกัญชงของ EE ในระยะแรกจะอยู่ที่ 24,000 ต้น และบริษัทจะทยอยปลูกให้ครบ 50,000 ต้น พร้อมกันนี้ยังเตรียมพื้นที่การปลูกค้นกัญชงในรูปแบบของ Green House อีก 3,000 ตารางเมตร
ส่วนราคาหุ้น EE ที่ปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมากในวันนี้ มองว่าเป็นผลมาจากการที่เมื่อวานนี้ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก โดยมองว่าก่อนหน้านี้ที่ราคาปรับตัวขึ้นมาเป็นผลมาจากการที่บริษัทเตรียมออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 1 (EE-W1) ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น
