นายมาร์ค ชานด์เลอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดของแบนน็อคเบิร์น โกล. ฟอร์เร็กซ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การที่เราไม่สามารถคาดเดาทิศทางการตัดสินใจของ
รัสเซียได้ว่าจะบุกยูเครนหรือไม่นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดการเงินของหลายประเทศทั่วโลก แต่ไม่ส่งแรงกระเพื่อมต่อตลาดหุ้นมากนัก
อย่างไรก็ตาม หากรัสเซียตัดสินใจเคลื่อนกำลังพลที่ปัจจุบันตรึงกำลังอยู่บริเวณแนวชายแดนนั้น ก็อาจกระตุ้นให้นักลงทุนมองว่าสถานการณ์ค่อนข้างมีความเสี่ยงสูง และย้ายเงินมาสู่สินทรัพย์ที่เสี่ยงต่ำกว่าได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง สวนทางกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะถีบตัวสูงขึ้น
ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้ออกคำขู่ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรหากรัสเซียยังดึงดันที่จะบุกยูเครน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหลายแห่งทั่วโลก เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ถือครองสินค้าโภคภัณฑ์หลักรายใหญ่ของโลก
นอกจากนี้ สถานการณ์ดังกล่าวจะดันให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นอีก รวมถึงราคาก๊าซในยุโรปที่ปัจจุบันมีราคาสูงอยู่แล้ว ส่วนดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นและพันธบัตรสหรัฐจะปรับตัวลง ด้านสินค้าโภคภัณฑ์อย่างข้าวสาลีและพัลลาเดียมจะดีดตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายมาร์คกล่าวว่า ขณะนี้สหรัฐและรัสเซียกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา ตลาดจึงยังไม่รู้สึกวิตกกังวลมากนักในขณะนี้ เพราะเป็นไปได้ยากมากที่รัสเซียจะตัดสินใจทำสงครามอย่างจริงจัง
