ผู้เขียน หัวข้อ: พาณิชย์ ดีเดย์ 14 ก.พ.นำระบบ ESS มาให้บริการ  (อ่าน 365 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Shopd2

  • *
  • กระทู้: 1,209
  • Popular Vote : 0
พาณิชย์ ดีเดย์ 14 ก.พ.นำระบบ ESS มาให้บริการ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2022, 01:22:09 pm »
พาณิชย์ ดีเดย์ 14 ก.พ.นำระบบ ESS มาให้บริการเพิ่มขีดความสามารถด้านส่งออก

นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ มีนโยบายให้นำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าไทยและอำนวยความสะดวกทางการค้า กรมฯ จึงผลักดันการใช้ระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature and Seal: ESS) ในการออกหนังสือสำคัญการส่งออก-นำเข้าสินค้าทุกประเภท เพื่อลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการไทย

โดยปัจจุบันได้ใช้ระบบ ESS สำหรับการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) แล้วมากกว่า 93% ของปริมาณการออก C/O ทั้งหมด และตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.65 จะขยายสู่การให้บริการออกหนังสือสำคัญฯ อีก 4 ประเภท ได้แก่ 1) หนังสือรับรองการส่งออกเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน (หนังสือรับรอง Kimberly Process) 2) หนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีทั้งหมดหรือบางส่วนที่มีโควตาส่งออกตามความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยและญี่ปุ่นสำหรับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (แบบ ตอ. JTEPA) 3) หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าตามข้อบังคับขององค์การกาแฟระหว่างประเทศ (แบบ ICO) และ 4) ใบกำกับปริมาณการนำเข้าสินค้าเหล็กรีดร้อนนำมารีดเย็นต่อฯ/ รีดเย็น (แบบ ล.3/ ล.5)

สำหรับระบบ ESS สามารถลดเวลาในการขอรับหนังสือสำคัญฯ ให้เหลือเพียงไม่เกิน 10 นาที/ฉบับ เนื่องจากเป็นระบบที่ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมฯ พิจารณาอนุมัติคำขอในระบบ หลังจากนั้นระบบ ESS จะนำลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ของเจ้าหน้าที่มาพิมพ์บนหนังสือสำคัญฯ โดยอัตโนมัติ แทนการลงลายมือชื่อและประทับตรา แบบสด ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยยังลดโอกาสในการแพร่เชื้อโควิด-19 ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)

ในปี 2564 กรมฯ ออกหนังสือสำคัญฯ ทั้ง 4 ประเภท (หนังสือรับรอง Kimberly Process, แบบ ตอ. JTEPA, แบบ ICO, และ แบบ ล.3/ ล.5) ที่จะนำเข้าระบบ ESS คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรวม 3,639.73 ล้านบาท ดังนั้นการลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการของกรมฯ จะเป็นการช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยอย่างเป็นวงกว้าง และช่วยลดต้นทุนทางการค้าจากบริการที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และในอนาคตกรมฯ จะเดินหน้าผลักดันการใช้ระบบ ESS สำหรับการออกหนังสือสำคัญฯ ทุกประเภท เพื่อเตรียมการสำหรับการให้บริการแบบ No Visit อย่างเต็มรูปแบบ โดยการให้ผู้ประกอบการสามารถพิมพ์หนังสือสำคัญฯ ได้จากสำนักงานของตนเอง