ผู้เขียน หัวข้อ: หอการค้าไทย แนะผู้ส่งออกผลิตอาหารแห่งอนาคต  (อ่าน 367 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jenny937

  • *
  • กระทู้: 644
  • Popular Vote : 0
หอการค้าไทย แนะผู้ส่งออกผลิตอาหารแห่งอนาคตที่มีแนวโน้มสดใสในยุคนิวนอร์มอล

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย บรรยายหัวข้อ "Connect the dots เชื่อมโยงอาหารแห่งอนาคตเพื่อยกระดับผู้ประกอบการไทย" ในงาน Where is the Future of Future Food ว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพ และเลือกรับประทานอาหารคุณภาพดีและมีประโยชน์ ทำให้อาหารแห่งอนาคต (future food) ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นโอกาสและความท้าทายที่จะมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยที่มีมูลค่านับแสนล้านบาทต่อปีให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ทิศทางของอาหารในอนาคตยุคนิวนอร์มอลที่น่าจะเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไทย ได้แก่ อาหารพืชแบบธรรมชาติ (Plant-Based Food) อาหารจากแมลง (Insect Food) และอาหารจากท้องถิ่น (Localization) เนื่องจากประเทศไทยมีจุดแข็งที่เป็นประเทศเกษตรกรรม มีวัตถุดิบที่เหมาะสม และมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในลักษณะดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศในระยะต่อไปได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วย และกลุ่มนักท่องเที่ยว

โดยมูลค่าส่งออกอาหารแห่งอนาคตของไทยในระยะ 10 ปี (55-64) มีสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 การส่งออกอาหารมีมูลค่า 1.09 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการส่งออกอาหารแห่งอนาคตถึง 123,146 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% และในช่วง 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.64) ไทยมีมูลค่าส่งออกสินค้าอาหารกว่า 806,430 ล้านบาท เป็นกลุ่มอาหารแห่งอนาคตกว่า 71,570 ล้านบาท

ภายใต้นโยบาย Connect the dots หอการค้าไทยได้ทำงานเชื่อมโยงหน่วยงานต่างๆ เพื่อร่วมกันสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการที่เข้มแข็ง อาทิ ความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันอาหาร และมหาวิทยาลัยในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคตไทยส่งออกสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสในการค้าและลงทุนเพิ่มมากขึ้น

หากพิจารณาอุปสงค์และอุปทานของประชากรโลก ในประเทศที่ด้อยพัฒนามีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นและมีความต้องการอาหารเพิ่มมากขึ้น คำตอบคือ ความมั่นคงและความยั่งยืนของอาหารจะเพียงพอต่อประชากรในโลก โจทย์สำคัญของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือ SMEs จะสามารถผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ทั้งวัตถุดิบและสามารถใช้วัตถุดิบให้ไม่เหลือทิ้งได้อย่างไร เพื่อสร้างคุณค่าของอาหาร (Value Added) และพึ่งพาตนเอง พึ่งพาวัตถุดิบภายในประเทศ เพื่อสร้างความยั่งยืนของประเทศต่อไป

หอการค้าไทยได้จัดโครงการพัฒนาผู้ประกอบการ เพื่อส่งเสริมสมาชิกผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป และอาหารแห่งอนาคต ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อาทิ โครงการ Online Clinic All About Food : ปั้นนักธุรกิจอาหารสู่โอกาสแห่งความสำเร็จ เป็นเวทีให้คำปรึกษาระหว่างผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารของไทย และผู้ประกอบการธุรกิจอาหารทุกขนาดที่สนใจ ตลอดจนการส่งเสริมมาตรฐานโควิด-19 Prevention Best Practice การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกระบวนการผลิตอาหารส่งออก ไปยังสมาชิก ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทที่ได้มาตรฐานฯ จำนวน 157 รายแล้ว

โดยในโอกาสที่สำคัญของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการจัดงาน APEC 2022 จะเป็นการเปิดประเทศต้อนรับผู้นำจาก 21 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งเราจะสามารถแสดงศักยภาพและภาพลักษณ์ด้านการเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร และอาหารแห่งอนาคต ภาคเอกชนได้กำหนด Theme "Embrace Engage Enable" จะเชื่อมโยงอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตและยกระดับผู้ประกอบการไทยให้มีขีดความสามารถ