ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 254.47 จุด, Nasdaq ดีดเกือบ 2% รับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ  (อ่าน 498 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ fairya

  • *
  • กระทู้: 1,190
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 254.47 จุด, Nasdaq ดีดเกือบ 2% รับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันอังคาร (22 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นเกือบ 2% เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนปรับตัวรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไนกี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,807.46 จุด เพิ่มขึ้น 254.47 จุด หรือ + 0.74%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,511.61 จุด เพิ่มขึ้น 50.43 จุด หรือ +1.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,108.82 จุด เพิ่มขึ้น 270.36 จุด หรือ +1.95%

ลิซ ยัง นักวิเคราะห์จากบริษัท SoFi กล่าวว่า แม้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อวันจันทร์หลังจากประธานเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ดูเหมือนว่าขณะนี้นักลงทุนเริ่มปรับตัวรับสัญญาณดังกล่าวแล้ว และมองว่าสิ่งที่ควรทำในขณะนี้คือเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ก็คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ นายพาวเวลได้กล่าวในการประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐเมื่อวันจันทร์ว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมาก และอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับสูงมากเกินไป ด้วยเหตุนี้เฟดจึงต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง และหากเห็นว่าจำเป็น เฟดก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมครั้งหนึ่งหรือหลายครั้ง

นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร หลังจากราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากการส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของนายพาวเวล โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส พุ่งขึ้น 2.44% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.77% ห้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 2.08% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.64% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 2.22% หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 2.63%

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.3% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดขึ้น 1.18% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 1.74% หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.13% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 3.1% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ทะยานขึ้น 4.4%

หุ้นไนกี้ พุ่งขึ้น 2.23% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3 ของปีงบการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ. 2565 โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือ ทั้งนี้ กำไรต่อหุ้นของไนกี้อยู่ที่ 87 เซนต์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 71 เซนต์ ส่วนรายได้อยู่ 1.087 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.059 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 7.91% ขานรับรายงานที่ว่า บริษัทเทสลาได้เริ่มส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าล็อตแรกที่ผลิตในโรงงานเมืองกรุนไฮเดอ ประเทศเยอรมนี

หุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลงตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.3% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.44% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.33% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ปรับตัวลง 0.96%

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน