วิจัยกรุงศรีเผย
เงินเฟ้อปีนี้มีแนวโน้มสูงกว่าคาด ขณะที่เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว คาดกนง.จะคงดอกเบี้ยที่ 0.50% ตลอดจนถึงสิ้นปี
การระบาดของโอมิครอนในช่วงต้นปี อาจทำให้แรงส่งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงท้ายปีก่อนสะดุดลงชั่วคราว เครื่องชี้เศรษฐกิจสำคัญในเดือนธันวาคมปีก่อนปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมูลค่าส่งออกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 24.5 พันล้านดอลลลาร์ (+23.0% YoY) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเร่งขึ้นหลังจากทางการดำเนินมาตรการ Test & Go ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ขณะที่มาตรการควบคุมการระบาดที่ผ่อนคลายในช่วงเดือนธันวาคมหนุนให้ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวต่อเนื่อง (+2.3% MoM, -1.2% YoY) เช่นเดียวกับดัชนีการลงทุนภาคเอกชนที่เติบโตได้ตามความต้องการทั้งในและต่างประเทศที่ปรับดีขึ้น (1.7% MoM, +4.2% YoY)
ความต่อเนื่องในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 อาจชะงักลงเล็กน้อยในช่วงต้นปีเมื่อต้องเผชิญกับการระบาดของไวรัสโอมิครอน อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบจะอยู่ในวงจำกัดและเป็นผลระยะสั้น แม้ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูง แต่อัตราการเสียชีวิตค่อนข้างต่ำสะท้อนมาตรการควบคุมอาจไม่เข้มงวดเท่ากับการระบาดในรอบก่อนหน้า ประกอบกับการฉีดวัคซีนเพื่อเร่งสร้างภูมิต้านทานมีความคืบหน้าอย่างมาก นอกจากนี้ ล่าสุดทางการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 5.32 หมื่นล้านบาท เพื่อประคองกำลังซื้อของผู้บริโภคและสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้กว่าแสนล้านบาท อีกทั้งแรงส่งเชิงบวกจากภาคส่งออกที่ยังมีทิศทางเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากมีการกลับมาใช้มาตรการ Test & GO วิจัยกรุงศรีจึงยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้จะเติบโตที่ 3.7%
อัตราเงินเฟ้อเดือนแรกของปีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ทั้งปีมีแนวโน้มสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมกราคมอยู่ที่ 3.23% YoY เร่งขึ้นจาก 2.17% เดือนธันวาคม สาเหตุสำคัญจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ (+27.9%) ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเร่งขึ้น ผนวกกับการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารบางประเภท โดยเฉพาะเนื้อสุกร และน้ำมันพืช ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักราคาหมวดอาหารสดและพลังงาน) เร่งขึ้นมาอยู่ที่ 0.52% จาก 0.29% เดือนธันวาคม
อัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นมากและยังมีแนวโน้มอยู่เหนือกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของทางการในไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่ต่ำมากในช่วงเดียวกันปีก่อน กอปรกับคาดว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากปัญหาอุปทานน้ำมันที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าอุปสงค์ในช่วงครึ่งปีแรกก่อนที่จะบรรเทาลงในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน แรงกดดันทางด้านราคาโดยเฉพาะในหมวดพลังงานจึงเพิ่มมากกว่าคาด กระทบต้นทุนการผลิตสูงขึ้น วิจัยกรุงศรีได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ขึ้นเป็น 2.0% (เดิมคาด1.5%)
มุมมองด้านดอกเบี้ยนโยบาย แม้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงกว่าคาดซึ่งเป็นผลจากด้านอุปทานตามราคาพลังงานที่ปรับเร่งขึ้น ขณะที่การฟื้นตัวเศรษฐกิจยังเปราะบางท่ามกลางกำลังซื้อที่อ่อนแอและหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังต้องพึ่งพามาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจึงยังมีความจำเป็นและเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน จึงคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.50% ในการประชุมกลางสัปดาห์นี้ (วันที่ 9 กุมภาพันธ์) และมีแนวโน้มที่จะตรึงดอกเบี้ยไว้ตลอดทั้งปี 2565