ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านปู เน็กซ์ นำร่องติดตั้งไมโครกริดให้รีสอร์ต  (อ่าน 285 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0
บ้านปู เน็กซ์ นำร่องติดตั้งไมโครกริดให้รีสอร์ตบนเกาะหลีเป๊ะใช้ไฟได้ 24 ชม.

บ้านปู เน็กซ์ ในกลุ่ม บมจ.บ้านปู (BANPU) เปิดตัวระบบไมโครกริด (Microgrid) ผลิต กักเก็บ และจ่ายไฟฟ้าภายในระบบเดียวแบบครบวงจรจากภาคเอกชนรายแรกของไทย โซลูชันพลังงานฉลาดเพื่อความยั่งยืนโมเดลใหม่ พลังงานสะอาด 100% ที่ช่วยลดต้นทุนค่าไฟ ลดมลภาวะ ยกระดับธุรกิจสู่ความยั่งยืน ล่าสุดนำร่องติดตั้งให้กับ "มะลิ รีสอร์ท" บนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟดีเซล ช่วยให้รีสอร์ทมีไฟฟ้าในการดำเนินกิจการ และต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันยังสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ลดการปล่อยมลภาวะ สร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ ชุมชน และระบบนิเวศบนเกาะ

ปัจจุบันระบบไมโครกริดที่ออกแบบให้กับรีสอร์ท สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง 30% ต่อเดือน ประหยัดสูงสุดถึงปีละ 1 ล้านกว่าบาท และสามารถลดการปล่อย CO2 ได้กว่า 90 ตันต่อปี พร้อมยกระดับเป็นอีโค รีสอร์ทต้นแบบ เพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ และสร้างจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

ระบบไมโครกริดของบ้านปู เน็กซ์ เป็นระบบโครงข่ายไฟฟ้าที่สามารถผลิต กักเก็บ จ่ายไฟฟ้าภายในระบบเดียวได้อย่างครบวงจร ทำงานได้ทั้งแบบอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้าหลัก หรือจะเชื่อมต่อเข้ากับระบบโครงข่ายไฟฟ้าหลักก็ได้ ถือเป็นแหล่งไฟฟ้าทางเลือกที่มีเสถียรภาพ และความยืดหยุ่นสูง โดยในช่วงกลางวันระบบโซลาร์จะผลิตไฟฟ้าออกมาให้ใช้ และหากมีไฟฟ้าเหลือก็จะถูกนำไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงที่โซลาร์ผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อการใช้งาน หรือดึงมาใช้ในเวลากลางคืน ทำให้มีไฟฟ้าใช้ตลอด 24 ชั่วโมง

ระบบนี้สามารถใช้เป็นแหล่งไฟฟ้าหลัก แหล่งไฟฟ้าสำรองในภาวะฉุกเฉิน หรือแหล่งไฟฟ้าเสริมร่วมกับโครงข่ายไฟฟ้าหลัก ทำให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต่อเนื่องไม่มีสะดุด เหมาะสำหรับใช้งานในกลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท หรือกิจการส่วนตัวบนเกาะที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ หรือมีไม่เพียงพอ ซึ่งมักจะประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่มีราคาสูง แหล่งพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงพอ ทำให้ระบบไฟฟ้ามีเสถียรภาพต่ำ ซึ่ง บ้านปู เน็กซ์สามารถออกแบบระบบให้ตอบโจทย์การใช้ไฟฟ้าของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังมีการบริหารจัดการระบบอย่างชาญฉลาดด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Energy Management System) ที่สามารถตรวจสอบการทำงานของระบบได้แบบเรียลไทม์และแม่นยำ รวมถึงตรวจสอบข้อมูลการผลิต การใช้ไฟฟ้า สถานะของระบบ ยอดประหยัดพลังงาน และการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์