หุ้นกลุ่มถ่านหินปรับตัวขึ้น โดย BANPU ปรับขึ้น 1.77% หรือ เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มาที่ 11.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 860.45 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.32 น. จากราคาเปิด 11.50 บาท ราคาสูงสุด 11.60 บาท ราคาต่ำสุด 11.40 บาท
TCC บวก 8.04% เพิ่มขึ้น 0.09 บาท มาที่ 1.21 บาท มูลค่าซื้อขาย 111.89 ล้านบาท
LANNA บวก 3.35% เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มาที่ 18.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 94.38 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้เป็นไปตามราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้น จากยังเป็นช่วงฤดูหนาวต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น ประกอบการนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในผลประกอบการไตรมาส 4/64 และลุ้นจ่ายปันผลครึ่งปีหลังของปี 64 ด้วย
ขณะที่ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังคงมุมมองบวกต่อหุ้น บมจ.บ้านปู (BANPU) จากคาดขาดทุนป้องกันความเสี่ยงลดลงอย่างมากในปีนี้ จาก 1.28 หมื่นล้านบาทในปีก่อน จากสัญญา hedge ถ่านหินคงค้างลดลง และ สัญญา hedge ก๊าซลดลงเป็น 50% ของปริมาณขายรายไตรมาส จาก 90% ในไตรมาส 4/64
ขณะเดียวกันฝนตกหนักจากลานีญา การห้ามส่งออกถ่านหินในอินโดนีเซีย ทำให้ซัพพลายถ่านหินตึงตัว และหนุนดัชนี NEX เป็น 236 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าฤดูฝนในอินโดนีเซียจะยังกดดันการผลิตถ่านหิน ซึ่งทำให้ดัชนี NEX สูงกว่า 200 เหรียญสหรัฐ/ตันในไตรมาส 1/65 ทำให้ราคาถ่านหินจะยังแข็งแกร่งตลอดครึ่งปีแรกของปีนี้ ให้ราคาเป้าหมายที่ 14 บาท
ด่าน บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) คาดว่า BANPU จะรายงาน net profit ที่ 3.46 พันล้านบาทในไตรมาส 4/64 ลดลง 1.4% qoq และพลิกจากขาดทุน 468 ล้านบาท ในไตรมาส 4/63 โดยเราคาดว่า BANPU จะต้องมี hedging loss ที่ค่อนข้างใหญ่อีกครั้ง คาดว่าจะอยู่ประมาณ 7,500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากหักรายการพิเศษออกคาดว่า BANPU จะ report core earnings ที่สูงมาก ดีสุดในหลายปี อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% qoq หลักๆ มาจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นแรง 7.7% qoq
ขณะที่คาดว่า Outlook ยังค่อนข้างดีมาก โดยราคาถ่านหิน ytd ปีนี้ ยังอยู่ระดับสูงถึง 197 เหรียญฯต่อตัน แม้ว่าปริมาณขายถ่านหินจะ soft ลงไปบ้าง ในไตรมาส 1/65 ที่เป็นช่วงหน้าฝนในประเทศอินโดนีเซีย และมีปัญหา logistic ช่วงที่อินโดนีเซียมีการประกาศห้ามส่งออกถ่านหินเล็กน้อย