ผู้เขียน หัวข้อ: โกลเบล็ก คาด SET ยังแกว่งผันผวนจับตาแบงก์กลางทั่วโลกขึ้นดอกเบี้ยตามเฟด  (อ่าน 394 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Naprapats

  • *
  • กระทู้: 931
  • Popular Vote : 0

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินทิศทางตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวน โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,650-1,700 จุด จากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้นและแรงกว่าที่คาด เนื่องจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือน ม.ค.65 ที่ประกาศออกมาสูง และคาดการณ์เงินเฟ้อจะพุ่งต่อจากระดับ 7% ในเดือน ธ.ค.64 เป็น 7.2% ในเดือน ม.ค.65 ซึ่งสูงสุดในรอบ 30 ปี โดยเห็นได้จาก FedWatch Tool ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 35% ที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน มี.ค.นี้จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 14%

ขณะเดียวกันธนาคารกลางในหลายประเทศได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อเช่นกัน โดยธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้นำร่องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อนแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางรัสเซียจะเป็นรายต่อไปที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดคาดว่าจะปรับขึ้นประมาณ 1% สู่ระดับ 9.50% ในการประชุมนโยบายการเงินวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.60 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2

ประกอบกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นตัวเลขแตะระดับหลัก 1 หมื่นรายต่อเนื่อง และจำนวนตัวเลขตรวจ ATK เร่งตัวขึ้นแตะระดับ 4 พันเศษเช่นกัน

ส่วนปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อเนื่อง อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2565 คาดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม, สหรัฐรายงานตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ธ.ค.64 และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มทยอยออกมา โดยเฉพาะจะมีการเปิดลงทะเบียนคนละครึ่ง เฟส 4 สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่เคยใช้สิทธิ ซึ่งช่วยให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบมากขึ้น และทางจีนจะมีการเปิดเผยยอดขายรถเดือน ม.ค.65, FDI เดือน ม.ค.65, ยอดปล่อยกู้ล็อตใหม่รวมทั้งสกุลเงินหยวนเดือน ม.ค.65 รวมทั้งสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และอัตราเงินเฟ้อเดือนมกราคม และความกเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.65

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์ลงทุนในกลุ่มหุ้นคุณค่า (value play) ได้แก่ KBANK, BBL, SCB, EA, GULF, ADVANC, TRUE และ DTAC รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการจำหน่ายชุดตรวจ ATK เพิ่มขึ้น ได้แก่ SMD, WINMED และ TM

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ยังคงต้องจับตาตัวเลขดัชนี CPI และดัชนีเงินเฟ้อเดือน ม.ค.65 ของสหรัฐ ซึ่งราคาน้ำมันดิบที่ล่าสุดขึ้นแตะระดับ 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จึงคาดการณ์การได้ว่าต้นทุนของผู้ผลิตยังทรงตัวระดับสูงต่อไป

อีกทั้งเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับขึ้น หากเงินเฟ้อมีเร่งตัวสูงกว่าครั้งก่อนที่ระดับ 7% เป็นไปได้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) อาจกลับขึ้นมากเร่งตัวเหนือ 1.90% และสะท้อนให้เห็นถึงการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ที่จะเกิดขึ้นในเดือน มี.ค.65 และคาดว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยทีเดียวถึง 0.5% ซึ่งหากเป็นกรณีดังกล่าวอาจทำให้ราคาทองคำมีความผันผวนสูงในสัปดาห์หน้าได้ จึงประเมินว่าในสัปดาห์หน้าหากราคาทองคำรับข่าวเงินเฟ้ออาจแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,750-1,850 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์