นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชีวาทัย (CHEWA) เปิดเผยว่า บริษัท
วางเป้าหมายรายได้ในปี 65 ไว้ที่ 2.8-3 พันล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมาจากการรับรู้โครงการใหม่ที่สร้างเสร็จจะทยอยโอน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า มีจำนวน 593 ยูนิต มูลค่า 1.58 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนในไตรมาส 2/65 และไตรมาส 3/65 โครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 (เฟส 2) จำนวน 380 ยูนิต มูลค่า 994 ล้านบาท จะเริ่มโอนในช่วงไตรมาส 4/65
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมามีการแพร่ระบาดของโควิด?19 ที่รุนแรงและต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลกระทบต่อทั้งประเทศ รวมไปถึงผู้รับเหมาและคนงานที่เป็นคู่ค้า บริษัทจึงได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระการดูแลคนงาน รวมถึงการวางแผนกับผู้รับเหมา ทำให้ไม่ส่งผลกระทบกับแผนการดำเนินงานก่อสร้างโครงการของบริษัท และคาดว่าในปีนี้ทั้ง 2 โครงการใหม่ดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้ตามกำหนดในปีนี้
บริษัทวางแผนพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติมในปี 65 ตามเป้าหมาย 6 โครงการ มูลค่าราว 5 พันล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ แบรนด์ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค 2-3 โครงการ มูลค่าราว 2.8 พันล้านบาท บ้านเดี่ยวแบรนด์ชีวารมย์ 2 โครงการ มูลค่า 1.5 พันล้านบาท และทาวน์โฮมแบรนด์ชีวาโฮม 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังเล็งเห็นถึงโอกาสตลาดที่อยู่อาศัยมือสองที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเพื่อนำมาต่อยอดจากธุรกิจเดิม ด้วยจุดขายที่สำคัญของตลาดที่อยู่อาศัยมือสองคือ "ทำเล" และ "ขนาด" ที่เข้ามาตอบโจทย์วิถีการดำรงชีวิตแบบนิวนอร์มอล บริษัทจึงเปิดทีมรุกธุรกิจตลาดที่อยู่อาศัยมือสองในนาม "CHEWA RENUE" โดยนำจุดเด่นด้านการตรวจสอบคุณภาพ บริการหลังการขาย และเพิ่มแผนการตลาดพร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงตลาดที่อยู่อาศัยมือสองให้มากขึ้น โดยคาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายและสร้างกระแสในตลาดที่อยู่อาศัยมือสองได้เป็นอย่างดี ตั้งเป้า 3 ปี มีรายได้เพิ่มขึ้นจากช่องทางนี้ 400 ล้านบาท เป็นการต่อยอดจากรายได้ในธุรกิจหลักอีกทางหนึ่ง