ผู้เขียน หัวข้อ: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาค หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด  (อ่าน 386 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prichas

  • *
  • กระทู้: 1,059
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาค หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ลงมา จากความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาด จึงอาจเป็นแรงกดดันต่อโอกาสในการปรับลดสภาพคล่องของสหรัฐฯที่อาจจะเร่งเร็วและแรงขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 7.5% ในเดือน ม.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ.2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.2% จากระดับ 7.0% ในเดือนธ.ค.

วันนี้ตลาดจะมีแนวรับที่ 1,670-1,684 จุด และแนวต้าน 1,708-1,712 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (10 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,241.59 จุด ลดลง 526.47 จุด หรือ -1.47%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,504.08 จุด ลดลง 83.10 จุด หรือ -1.81% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,185.64 จุด ลดลง 304.73 จุด หรือ -2.10%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.63 จุด หรือ -0.39% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 87.15 จุด หรือ -0.35% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (11 ก.พ.) เนื่องในวันสถาปนาประเทศ
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 ก.พ.) ที่ระดับ 1,703.00 จุด ลดลง 0.16 จุด, -0.01%
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 8,590.27 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ก.พ.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (10 ก.พ.) เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 89.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ก.พ.) อยู่ที่ 7.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ 32.78 อ่อนค่าตามตลาดโลกหลังเงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง
สภาล่มครั้งที่ 17 "หอการค้า" ชี้เป็นอุปสรรคออกกฎหมายสำคัญ แนะเร่งจัดลำดับความสำคัญกฎหมายที่จะพิจารณา "เฟทโก้" ชี้ประเทศเดินหน้าต่อลำบาก นักลงทุนคาดปีนี้ยุบสภา "ธุรกิจท่องเที่ยว" แนะรัฐบาลก้าวข้ามความขัดแย้งการเมือง เร่งหนุนท่องเที่ยวสร้างรายได้ประเทศ
สธ.เผยยอดผู้ป่วยหนัก-เสียชีวิต โควิด-19 ต่ำกว่าเดิม 10 เท่า ก่อนอายุ 60 ปีอัตราเสียชีวิต ต่ำกว่า 0.1 % ขณะที่สธ.ปลด "โรคโควิด-19" ออกจากป่วยฉุกเฉินรักษาได้ทุกที่ ติดเชื้อรักษาได้ตามสิทธิ พร้อมปรับอัตรารัฐจ่ายชดเชยค่าตรวจหาเชื้อ-ฮอสพิเทล ลดลงเท่าอัตรากักตัวที่บ้าน เริ่ม 1 มี.ค.นี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหลังเผชิญวิกฤติโควิด-19 รัฐบาลตั้งเป้าในปี 65 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 50% ของปี 62 ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 20% ของจีดีพี และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน หรือราว 1.5 ล้านล้านบาท จากนั้นในปี 66 ตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเป็น 20 ล้านคน และรายได้ 80% ของปี 62 หรือราว 2.4 ล้านล้านบาท และในปี 67 ตั้งเป้าให้สถานการณ์ฟื้นตัวกลับคืนมาหรือดีกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยเอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพ 10 ราย เตรียมพร้อมระดมทุน กระดานหุ้นที่ 3 "ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์" คาดเปิดเทรดเร็วสุดไตรมาส 2/65 เบื้องต้นเปิดซื้อขายเปลี่ยนมือวันละครั้ง
ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เร่งดำเนินการต่างๆ เพื่อดึงดูดเงินลงทุนรอบใหม่และเป็นการปรับฐานการลงทุนไทยอย่างแท้จริง โดยเน้นใน 3 อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงหรือเอส-เคิร์ฟ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถอีวี, อิเล็กทรอนิกส์ และการท่องเที่ยว ซึ่งมีเป้าหมายดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในไทยภายใน 1-2 ปีนี้ ให้ได้ประมาณ 1 ล้านล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้

TTB (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" เป้าหมาย 1.80 บาท คาดกำไรสุทธิปี 65 จะเติบโตสูงสุดในกลุ่มธนาคาร +27% Y-Y จากประโยชน์หลังการควบรวมเต็มปีทั้งการ Cross Selling รวมถึงลดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน และเป็นธนาคารเดียวที่ ROE จะสูงเหนือระดับก่อน COVID-19 ฐานลูกค้าที่เป็นรายย่อยมากขึ้นทำให้ Loan Yield สูงและมีโอกาสเกิดการ Rerate Valuation ขึ้น ขณะที่ปัจจุบัน TTB ซื้อขายที่ระดับ PBV เพียง 0.6 เท่า ซึ่งเรามองว่าต่ำเกินไป
MAKRO (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 44.00 บาท แนะทยอย "ซื้อ" รายได้ปี 65 โต Tesco ช่วยหนุน พร้อมขายอาหารสดเพิ่มขึ้นผ่านสาขา (กำไรดี), ด้านราคาหุ้น Laggard ต่างชาติเริ่มซื้อ เริ่มขยายสาขาใหม่ และปรับ Model จากการรวมกันของ MAKRO-Tesco นอกจากจะช่วยยกระดับฐานรายได้แล้ว ยังลดต้นทุนที่ซ้ำกันของทั้งคู่เป็นบวกต่อกำไร Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 64-65 ที่ 1.22 หมื่น ลบ. และ 1.6 หมื่น ลบ. +82%YoY, +32%YoY ตามลำดับ
BLA (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 50 บาท ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งแตะระดับ 1.95% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี BLA ได้ 2 ต่อ จากกำไรของเงินลงทุนเพิ่มขึ้น ตั้งสำรองลดลงส่งผลบวกต่อกำไรรวมโดยตรงและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ