ภาวะ
ตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 4.24 จุด ปรับลงน้อยกว่าตลาดอื่นหลังเงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,698.76 จุด ลดลง 4.24 จุด (-0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 50,835.71 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่น โดยทำระดับสูงสุด 1,703.95 จุด และระดับต่ำสุด 1,690.69 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่น เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ รวมถึงคำกล่าวของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ที่ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ภายในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นร้อนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในเอเชียไม่มาก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง
ขณะที่นักลงทุนก็ได้เพิ่มคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. จากเดิม 0.30% ส่งผลทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ดีดตัวขึ้น
แนวโน้มการลงทุนช่วงบ่าย นายณัฐชาต กล่าวว่า ดัชนีฯ น่าจะอิงทางลง จาก Bond Yield ที่ดีดตัวขึ้น กดดันต่อ Earning yield gap โดยให้แนวรับ 1,680 จุด และแนวต้าน 1,710 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,166.46 ล้านบาท ปิดที่ 166.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,141.91 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,469.77 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,381.78 ล้านบาท ปิดที่ 60.25 บาท ลดลง 1.75 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,349.42 ล้านบาท ปิดที่ 232.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
