ผู้เขียน หัวข้อ: แบงก์ชาติออสซี่ส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย แม้เศรษฐกิจ  (อ่าน 375 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jenny937

  • *
  • กระทู้: 644
  • Popular Vote : 0
แบงก์ชาติออสซี่ส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย แม้เศรษฐกิจ-ตลาดแรงงานฟื้นตัว

นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี RBA มองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเกินไปนั้นจะก่อให้เกิดความเสี่ยง

นายโลว์ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของรัฐสภาออสเตรเลียในวันนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่อัตราว่างงานของออสเตรเลียจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 4% เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี และอาจเป็นสาเหตุให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น

"ในอนาคตข้างหน้านี้ เรามีโอกาสที่จะเห็นอัตราว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้" นายโลว์กล่าว พร้อมระบุว่า "การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยง"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียได้รับผลกระทบอย่างหนักในเดือนม.ค.ปีนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ทำให้รัฐบาลประกาศควบคุมการเดินทางของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายของผู้บริโภคฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมาหลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มปรับตัวลง

นายโลว์กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ RBA อาจจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนมากคาดการณ์ว่า RBA อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมิ.ย.นี้ เมื่อพิจารณาจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทั่วโลก

ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากปัจจุบันที่ระดับ 0.1% สู่ระดับ 0.25% ในเดือนมิ.ย. และจากนั้นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกจนถึงระดับ 1% ภายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีนี้

การแสดงความเห็นของนายโลว์สะท้อนให้เห็นว่า RBA มีจุดยืนที่แตกต่างกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.นี้ โดยล่าสุดนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ภายในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นร้อนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.2% จากระดับ 7.0% ในเดือนธ.ค.