UAC เป้าปี 65 รายได้ 2 พันลบ.EBITDA กว่า 420 ลบ.ลงทุน 500 ลบ.
เน้นพลังงานสะอาดนายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกล. (UAC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 65 แตะระดับ 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯยังตั้งเป้ารักษาระดับอัตรากำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มากกว่า 420 ล้านบาท ของรายได้ยอดขายรวม
โดยภาพรวมเศรษฐกิจในปี 65 มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น และ UAC ก็มีการปรับกลยุทธ์การทำงานผ่านระบบออนไลน์จนสามารถทำงานในแบบ Remote Working อีกทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ต่อยอดมาจากสารปรับปรุงดินที่เป็น By-Product จากโรงงานก๊าซชีวภาพ รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ ด้านการลงทุนในรูปแบบใหม่ อาทิ สกุลเงินดิจิทัล (Digital Currency) เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับบริษัทที่หลากหลายมากขึ้น
ในปีนี้บริษัทวางยุทธ์ศาสตร์ทางธุรกิจ เพื่อการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจด้านพลังงานสะอาด และพลังงานทดแทน ควบคู่ไปกับการการเร่งขยายการตลาดในส่วนของธุรกิจเทรดดิ้ง ไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ มากขึ้น อาทิ โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี พลังงานและเคมีภัณฑ์
พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กร เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) และการดำเนินธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) พร้อมทั้งยังมองหาโอกาสการลงทุนร่วมกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่ง รวมถึง ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่กำลังพัฒนา อาทิ สารปรับปรุงดิน โรงไฟฟ้า การเข้าเป็นที่ปรึกษากับพันธมิตรในด้านโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ
แผนการลงทุนของบริษัทในปีนี้ว่า UAC ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 500 ล้านบาท สำหรับรองรับการลงทุนโครงการต่างๆ อาทิ โรงไฟฟ้าชุมชน ธุรกิจเทรดดิ้ง และธุรกิจ EV Charging Station เพื่อมุ่งเน้นนโยบายการลงทุนด้าน Energy Efficiency ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยล่าสุดโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงานในอำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น อยู่ระหว่างรอการเซ็นอนุมัติ PPA จากภาครัฐ ซึ่งหากมีการเซ็น PPA เรียบร้อยสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ และรับรู้รายได้ในปี 65 นี้ เนื่องจากการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ และวิสาหกิจชุมชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ส่วนความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ขนาด 6 เมกะวัตต์ ที่นครเวียงจันทน์ของสปป.ลาวนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง หลังจากโครงการจัดการขยะเพื่อผลิตพลังงานทดแทนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 64 ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พร้อมกันนี้ แผนการขยายธุรกิจเทรดดิ้งในปีนี้ UAC มีการวางกลยุทธ์เพื่อก้าวสู่การเป็น Service Provision เช่น การให้คำปรึกษาหลังการขาย และการทำการตลาดแบบ Customer Centric เพื่อลดความเสี่ยงของความผันผวน อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด -19 เพื่อรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ในการขายสินค้าให้อยู่ที่ระดับ 20-22 % รวมทั้งการบริหารต้นทุน Inventory ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อให้เป็นไปตามกรอบของ Sustainable Development ที่วางไว้
ขณะที่ความคืบหน้าการจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับ บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) และพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจให้บริการสถานีน้ำมัน ซึ่งคาดว่าสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ในปี 65 จะติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในรูปแบบชาร์จไฟแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC EV Quick Charger) ที่มีขนาดสูงสุดถึง 200 KW เฟสแรก จำนวน 4 สถานี 12 หัวจ่าย
นอกจากนี้ UAC มีแผนในการนำเครื่องมือทางการเงินมาใช้ โดยจะจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุนในปีนี้ไว้หลากหลาย อาทิ แผนการออกหุ้นกู้ 500 ล้านบาท และเงินกู้จากธนาคาร ซึ่งสถาบันการเงิน โดยรักษาระดับอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 1.5 เท่า