ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน จับตารัสเซียจ่อบุกยูเครน
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมา ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นยังสร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของสหรัฐ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,006.66 จุด ลดลง 72.93 จุด หรือ -0.27% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,383.64 จุด ลดลง 172.93 จุด หรือ -0.70% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,442.51 จุด เพิ่มขึ้น 13.63 จุด หรือ +0.40%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีในวันจันทร์ (14 ก.พ.) ท่ามกลางความกังวลที่ว่าสหรัฐและชาติตะวันตกอาจคว่ำบาตรรัสเซีย หากรัสเซียตัดสินใจบุกโจมตียูเครน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจากรัสเซีย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 2.36 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 95.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. 2557
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 2.04 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 96.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 2557
จอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital กล่าวว่า ตลาดน้ำมันยังคงอ่อนไหวอย่างมากต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน เนื่องจากรัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของโลก โดยความกังวลที่ว่ารัสเซียอาจถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรหากตัดสินใจบุกโจมตียูเครน ได้ผลักดันให้ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและอังกฤษเตือนว่า รัสเซียพร้อมที่จะบุกโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่า นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้สั่งย้ายสถานทูตอเมริกันในกรุงเคียฟไปยังเมืองลวิว ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของยูเครน เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนยูเครนมีความตึงเครียดอย่างมาก