ผู้เขียน หัวข้อ: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ได้กลุ่มพลังงานหนุนแม้สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนถ่วง  (อ่าน 383 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ hs8jai

  • *
  • กระทู้: 769
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ได้กลุ่มพลังงานหนุนแม้สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนถ่วง

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ แม้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยังมีความไม่แน่นอน แต่ก็ยังไม่มีพัฒนาการใดๆ เพิ่มเติม ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น คาดหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งจะเป็นตัวพยุงดัชนีไม่ให้ปรับตัวลงไปมากนัก รวมถึงนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง จึงน่าจะสามารถต้านแรงขายในประเทศได้

แนะนำติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ว่าจะมีการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันหรือไม่ รวมถึงมาตรการช่วยค่าครองชีพที่เกี่ยวข้องกับปัญหาราคาน้ำมันแพง

ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,675-1,680 จุด และแนวต้าน 1,695-1,700 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (14 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,566.17 จุด ลดลง 171.89 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,401.67 จุด ลดลง 16.97 จุด หรือ -0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,790.92 จุด ลดลง 0.24 จุด หรือ -0.002%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 103.97 จุด หรือ +0.38% , ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.84 จุด หรือ -0.02% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 98.07 จุด หรือ -0.40%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 ก.พ.) ที่ระดับ 1,684.69 จุด ลดลง 14.51 จุด, -0.85%
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,587.56 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ก.พ.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (14 ก.พ.) พุ่งขึ้น 2.36 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 95.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. 2557
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 ก.พ.) อยู่ที่ 8.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 32.40 แข็งค่าต่อเนื่องสวนทางภูมิภาค รับเม็ดเงินไหลเข้าหนุน
"สุพัฒนพงษ์" เผยใช้มาตรการภาษี-กองทุนน้ำมันดูแลราคา "คลัง" ยอมลดภาษีดีเซล 3 บาท ชง ครม.เคาะวันนี้ แก้ปัญหาน้ำมันแพง ห่วงกระทบรายได้รัฐปีละ 7 หมื่นล้าน "พลังงาน" มองน้ำมันพุ่งต่อถึงกลางปี หวังลดภาษีลดผล กระทบประชาชน "ส.อ.ท.-หอการค้า" เชียร์ช่วยลดต้นทุนผลิต "พีทีจี" คาดปริมาณใช้น้ำมันปีนี้เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจ
กูรูค้าปลีก ชี้พิษโควิดเร่งอุตสาหกรรมรีเทลทรานส์ฟอร์ม แนะผู้ประกอบการพลิกกลยุทธ์ทันเทรนด์โลกดิจิทัล พฤติกรรมผู้บริโภควิถีใหม่นิยม ช้อปออนไลน์ควบคู่หน้าร้าน "IDC Infobrief" ชู "ไฮบริดโมเดล-ออมนิแชนแนล" เคลื่อนธุรกิจรับตลาดเริ่มขยับ หนุนฟื้นตัว
"อนุทิน" เผยเดินหน้าถอด "โควิด" ออกจากยูเซ็ป แต่ยังคงสิทธิรักษาได้ทุกที่หากมีอาการหนัก ด้านสธ.แจงเหตุคนติดเชื้อ 80-90% ไม่มีอาการ-อาการน้อย ย้ำเข้านิยาม 6 อาการยังใช้สิทธิฉุกเฉินได้ คนป่วยทุกรายยังรักษาฟรี ขณะที่ผู้ป่วยดูแลอยู่บ้าน-ฮอสพิเทล มีสิทธิรับค่าชดเชยตามกรมธรรม์ เตรียมทำหนังสือถึงคปภ.ภายในสัปดาห์นี้ หลังพบบริษัทประกันไม่จ่ายชดเชย
ธปท.เปิดผลสำรวจแนวโน้มขอสินเชื่อไตรมาส 1/65 โตทุกสาขาธุรกิจ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน-ซื้อกิจการด้าน "ทีทีบี" ชี้สินเชื่อรายใหญ่ดีมานด์พุ่งต่อเนื่อง 6 เดือนติด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดสินเชื่อธุรกิจปีนี้โต 8%
3 หุ้นเหมืองขุดบิตคอยน์ ECF ZIGA UPA ราคาซิลลิ่ง ด้าน ตลท.ออกโรงเตือนนักลงทุน-กำชับโบรกดูแลการซื้อขายป้องกันภาวะเก็งกำไรเกินควร ด้าน "ภากร" ย้ำ ตรวจสอบหุ้นราคาเคลื่อนไหวร้อนแรง "บล.เอเซีย พลัส" ชี้ เก็งกำไรระยะสั้น เท่านั้น ด้านบล.หยวนต้า ไม่แนะเข้าลงทุน
ก.ล.ต.เตรียมควบคุมการโฆษณาชักชวนผู้ลงทุนของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเพิ่มความคุ้มครองผู้ซื้อขาย หลังพบปัญหาการโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจหลายราย ไม่มีคำเตือนเรื่องความเสี่ยงของคริปโตเคอร์เรนซี หรือคำเตือนมีขนาดเล็กเกินไป ฯลฯ ย้ำต้องมีการกำกับดูแลการโฆษณาที่มีมาตรฐานเหมือนในต่างประเทศ ที่ห้ามโฆษณาเกินจริง ไม่บิดเบือน
*หุ้นเด่นวันนี้

บมจ. พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น (PTC) ผู้ประกอบกิจการคลังน้ำมันเชื้อเพลิงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมเข้าซื้อขายในวันนี้ PTC มีทุนชำระแล้ว 205 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 300 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่ม ทุน 110 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 105.61 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัท 4.39 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2565 ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 385 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,435 ล้านบาท
MAKRO (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 44.00 บาท ประเมินรายได้ปี 65 ฟื้นชัดตามการบริโภคในประเทศ ขณะที่ราคาหุ้นยัง Laggard มองเป็นโอกาสทองในการทยอยเก็บหุ้นและ Down side จำกัด เริ่มขยายสาขาใหม่ และปรับ Model ของ Tesco การรวมกันของ MAKRO-Tesco นอกจากจะช่วยยกระดับฐานรายได้แล้ว ยังลดต้นทุนที่ซ้ำกันของทั้งคู่เป็นบวกต่อกำไร Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2564-2565 ที่ 1.22 หมื่น ลบ. และ 1.6 หมื่น ลบ. +82%YoY, +32%YoY ตามลำดับ
HMPRO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" เป้าหมาย 18.30 บาท คาดกำไรไตรมาส 4/64 ฟื้นตัวแข็งแกร่ง +79% Q-Q, +1% Y-Y หลังคลาย Lockdown ทำให้ SSSG ฟื้นแรง หนุนทั้งปี 2564 คาด +2% Y-Y ปี 2565 คาดฟื้นตัวต่อเนื่องและได้อานิสงส์บางส่วนจากช้อปดีมีคืน นอกจากนี้ยังเน้นเพิ่มสินค้า House Brand เพื่อเพิ่ม Margin และเปิดสาขาใหม่เชิงรุกมากขึ้น เราคาดกำไรปี 2565 +22% Y-Y