นครนิวยอร์กจ่อปลดพนักงานเทศบาล 3,000 ราย ฐานปฏิเสธฉีดวัคซีน
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานในวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) ว่า นครนิวยอร์กวางแผนปลดพนักงานเทศบาลประมาณ 3,000 รายภายในช่วงสิ้นสัปดาห์นี้ เนื่องจากปฏิเสธการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นแม้ว่ารัฐนิวยอร์กเตรียมดำเนินการตามรัฐและเมืองอื่น ๆ ของสหรัฐในการยกเลิกการบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 ท่ามกลางการปรับลดลงอย่างมากของผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
นายบิล เดอ บลาซิโอ อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กได้สั่งการให้พนักงานภาครัฐและเอกชนทั้งหมดในนครนิวยอร์กฉีดวัคซีนเมื่อเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่เขายังคงอยู่ในตำแหน่ง โดยการปลดพนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายโรคระบาดที่รุนแรงที่สุดในสหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงรายงานของนิวยอร์กไทม์สว่า พนักงานในนครนิวยอร์กมีเวลาถึงวันนี้ (11 ก.พ.) เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนตามคำสั่ง โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่อยู่ประมาณ 3,000 คนที่เสี่ยงถูกปลด หากพวกเขาไม่ยื่นเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนภายในกำหนดเส้นตาย
"เราต้องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพนักงานในนครนิวยอร์กทุกคนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน" นายอีริค อดัมส์ นายกเทศมนตรีคนปัจจุบันของนครนิวยอร์ก ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. กล่าว
ด้านพนักงานเทศบาลได้รวมตัวประท้วงต่อต้านการบังคับฉีดวัคซีนในช่วงต้นสัปดาห์นี้