ในบรรดางานบ้านทั้งหมดการ ซักผ้า ต้องยอมรับว่าเป็นงานบ้านที่หนักหน่วง ใช้แรงและเวลาในการจัดการมากที่สุดสำหรับพ่อบ้านและคุณแม่บ้านทั้งหลาย ที่หลังจากออกไปทำงานหนักนอกบ้านแล้ว ยังต้องกลับมาทำความสะอาดเสื้อผ้าด้วยมือ เครื่องซักผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เข้ามาช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องเสียแรงเสียเวล่ำเวลาไปกับการซักผ้าเป็นชั่วโมง ยิ่งในปัจจุบันเครื่องซักผ้ายี่ห้อต่างๆ พากันออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานที่ช่วยขจัดปัญหาจุกจิกกวนใจ ตัวอย่างเช่น ระบบจ่ายน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มอัตโนมัติ Auto Dosing System (ADS) ของ
เครื่องซักผ้า hitachi ที่ช่วยจ่ายน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณที่พอเหมาะ ทำให้ผ้าสะอาด หอมนุ่ม และลดปัญหาสารตกค้างและการอุดตันของท่อ เป็นต้น
แต่แม้ว่าเครื่องซักผ้าจะเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์มากเพียงใด คุณพ่อบ้านและคุณแม่บ้านหลายท่านก็ยังคงสองจิตสองใจที่จะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าไว้ที่บ้าน เนื่องจากยังมีความเข้าใจว่า เครื่องซักผ้าจะกินน้ำกินไฟทำให้ค่าใช้จ่ายภายในบ้านสูงขึ้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว มีวิธีที่จะเลือกเครื่องซักผ้าให้ตอบสนองการใช้งาน แล้วยังช่วยประหยัดไฟ ประหยัดน้ำได้อีกด้วย
วิธีเลือกเครื่องซักผ้าแบบประหยัดไฟ ประหยัดน้ำเลือกขนาดของเครื่องซักผ้าให้เหมาะสมกับผ้าที่ต้องซักการเลือกขนาดของเครื่องซักผ้าให้เหมาะสมกับจำนวนของเสื้อผ้าที่ต้องซักในแต่ละครั้ง จะช่วยให้ประหยัดไฟ ประหยัดน้ำได้ดี ซึ่งขนาดของเครื่องซักผ้าที่เราพูดถึง คือ ความจุของตัวถังเครื่องซักผ้า (มีหน่วยเป็นกิโลกรัม) โดยแบ่งตามปริมาณได้ดังนี้
- ความจุ 5-7 Kg. ซักเสื้อผ้าได้ประมาณ 25-30 ชิ้น
- ความจุ 7-9 กก. ซักเสื้อผ้าได้ประมาณ 36-45 ชิ้น
- ความจุ 9-11 Kg. ซักเสื้อผ้าได้ประมาณ 46-65 ชิ้น
- ความจุ 11 กก. ขึ้นไป ซักเสื้อผ้าได้ประมาณ 56 ชิ้น ขึ้นไป
เลือกที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 รับประกันว่าประหยัดไฟแน่นอนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่ติดไว้บนเครื่องซักผ้าเป็นเครื่องหมายแจ้งว่า เครื่องซักผ้าเครื่องนั้นได้ผ่านการทดสอบจาก สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (สฟอ.) เรียบแล้ว และในปัจจุบันบนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ก็มีการเพิ่มดาวขึ้นมาบนฉลาก ตั้งแต่ 1 ดาว ไปจนถึง 4 ดาว แสดงถึงประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานที่มากขึ้นตามจำนวนดาวที่ได้รับนั่นเอง
เลือกมอเตอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ทั้งเงียบ ทั้งประหยัดไฟมอเตอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาทำหน้าที่ควบคุมระบบมอเตอร์ ซึ่งจะต่อตรงกับตัวเครื่องซักผ้าโดยไม่มีสายพานอีกต่อไป ทำให้เครื่องซักผ้าสามารถหมุนได้หลายทิศทางมากขึ้น ทำความสะอาดได้ดีขึ้น ประหยัดพลังงานมากขึ้น ซึ่ง
เครื่องซักผ้า samsung ที่มีเทคโนโลยีดิจิทัลอินเวอร์เตอร์ สามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 40% เลยทีเดียว
เครื่องซักผ้าฝาหน้าใช้น้ำในการซักผ้าน้อยกว่ารุ่นฝาบน
เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบให้สามารถควบคุมปริมาณน้ำให้พอดีกับปริมาณของเสื้อผ้า จึงสามารถประหยัดน้ำได้มากกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน ตัวอย่างเช่น
เครื่องซักผ้า electrolux ที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถประหยัดน้ำได้มากถึง 2 ใน 3 หากเทียบกับเครื่องซักผ้าฝาบนเลยทีเดียว
เครื่องซักผ้าอาจดูเหมือนเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยเกินจำเป็น แต่ถ้าเทียบกับการที่เครื่องซักผ้าเข้ามาช่วยลดภาระเรื่องงานบ้าน ให้เรามีเวลาพักผ่อน หรือเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น ก็ถือว่าคุ้มค่า และยิ่งได้เครื่องซักผ้าที่ประหยัดไฟฟ้า ประหยัดน้ำด้วยแล้ว ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปชัวร์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website :
https://www.homepro.co.th/c/APP1303