ภาวะ
ตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.59 เหตุตลาดยังกังวลสถานการณ์ยูเครน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (16 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระบุว่า รัสเซียยังคงเสริมกำลังทหารตามชายแดนยูเครน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 93.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2557
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 94.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2557
นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียยังคงเสริมกำลังทหารตามชายแดนยูเครน แม้มีรายงานว่ารัสเซียได้ถอนกำลังทหารบางส่วนจากบริเวณดังกล่าว
"เรายังไม่เห็นการถอนกำลังทหารของรัสเซีย ซึ่งสิ่งนี้ขัดแย้งกับความพยายามทางการทูตที่จะคลี่คลายวิกฤตการณ์ สิ่งที่เราเห็นก็คือพวกเขาได้เพิ่มจำนวนทหาร ซึ่งทำให้ความตึงเครียดยังไม่ได้ลดน้อยลง"นายสโตลเทนเบิร์กกล่าว
นายสโตลเทนเบิร์กยังระบุว่า ที่ผ่านมา รัสเซียมักมีการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในช่วงการเสริมกำลังทหาร
"การเคลื่อนย้ายทหารและรถถัง ไม่ได้ยืนยันว่ามีการถอนกำลังทหารจริง" นายสโตลเทนเบิร์กกล่าว
ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวเตือนเช่นกันว่า รัสเซียยังคงมีกำลังทหารมากกว่า 150,000 นายใกล้ชายแดนยูเครน
ทั้งนี้ สถานการณ์ในยูเครนที่กลับมาตึงเครียดอีกครั้งนั้น เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น แม้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล