ภาวะ
ตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ $1.9 หลังเจรจานิวเคลียร์อิหร่านคืบหน้า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 2% ในวันพฤหัสบดี (17 ก.พ.) หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 91.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.84 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 92.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบอ่อนแรงลง หลังจากนายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า การเจรจาทางอ้อมในประเด็นนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านใกล้จะเข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว
ที่ผ่านมานั้น สหรัฐได้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนต่ออิหร่านแล้ว แต่อิหร่านเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด และให้การรับประกันว่าจะไม่มีการใช้มาตรการลงโทษอิหร่านต่อไปในอนาคต
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อาจส่งผลให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดโลกได้กว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งจะทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นราว 1% และสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมัน โดยล่าสุดนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัสเซียเตรียมการโจมตียูเครน โดยจะมีการใช้อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
"รัสเซียจะไม่โจมตียูเครนด้วยอาวุธธรรมดา และการโจมตีจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วัน" นายบลิงเกนกล่าวในการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า รัสเซียได้ตรึงกำลังทหารกว่า 150,000 นายตามแนวชายแดนยูเครน รวมทั้งมีกำลังทหารในเบลารุส และคาบสมุทรไครเมียที่พร้อมโจมตีในอีกไม่กี่วัน
นอกจากนี้ นายบลิงเกนเปิดเผยว่า รัสเซียมีแผนที่จะสร้างสถานการณ์เพื่อเป็นข้ออ้างในการโจมตียูเครน
"สิ่งนี้อาจจะเป็นการวางระเบิดก่อการร้ายในรัสเซีย หรือการสร้างเรื่องค้นพบหลุมศพจำนวนมาก หรือมีการใช้โดรนโจมตีพลเรือน รวมทั้งการใช้อาวุธเคมี" นายบลิงเกนกล่าว