แอร์ผนังเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทย สาเหตุที่แอร์ผนังเป็นแอร์ที่ได้รับความนิยมสูงทั้งนี้เพราะเป็นแอร์ที่เหมาะกับห้องขนาดไม่ใหญ่นัก สามารถติดตั้งในจุดที่สูงกระจายความเย็นได้ไกล ทั้งยังดูแลรักษาง่าย ถ้าท่านไหนกำลังมองหาแอร์คอนดิชันมาใช้ดับร้อนในห้อง เรามีวิธีเลือกแอร์ผนังแบบไหนที่ทั้งประหยัดไฟและเย็นเร็วมาให้คุณใช้เป็นเกณฑ์การเลือกแบบง่ายๆ กันค่ะ
1. เลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้องข้อแรกนี้เป็นหลักการเลือกแอร์ที่สำคัญที่สุด เราสามารถคำนวณได้ง่ายๆ ด้วยสูตรคำนวณ ขนาดห้อง (ตารางเมตร) x 650-800 BTU = ขนาด BTU ที่เหมาะกับขนาดห้องโดยประมาณ ซึ่งสามารถเพิ่มหรือลดได้อีกประมาณ 5% ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อาทิเช่น ทิศทางที่แสดงแดดกระทบผนังในช่วงเวลาต่างๆ
BTU ห้องแอร์ปกติ ห้องแอร์ที่โดดแดด
ขนาด 9,000 BTU พื้นที่ 12-15 ตารางเมตร พื้นที่ 11-14 ตารางเมตร
ขนาด 12,000 BTU พื้นที่ 16-20 ตารางเมตร พื้นที่ 14-18 ตารางเมตร
ขนาด 18,000 BTU พื้นที่ 24-30 ตารางเมตร พื้นที่ 21-27 ตารางเมตร
ขนาด 21,000 BTU พื้นที่ 28-35 ตารางเมตร พื้นที่ 25-32 ตารางเมตร
ขนาด 24,000 BTU พื้นที่ 32-40 ตารางเมตร พื้นที่ 28-36 ตารางเมตร
ขนาด 25,000 BTU พื้นที่ 35-44 ตารางเมตร พื้นที่ 30-39 ตารางเมตร
ขนาด 30,000 BTU พื้นที่ 40-50 ตารางเมตร พื้นที่ 35-45 ตารางเมตร
ขนาด 35,000 BTU พื้นที่ 48-60 ตารางเมตร พื้นที่ 42-54 ตารางเมตร
ขนาด 48,000 BTU พื้นที่ 64-80 ตารางเมตร พื้นที่ 56-72 ตารางเมตร
ขนาด 80,000 BTU พื้นที่ 80-200 ตารางเมตร พื้นที่ 70-90 ตารางเมตร
นอกจากนี้ต้องเลือกฟังก์ชั่นของแอร์ผนังให้เหมาะกับรูปทรงของห้อง ดังเช่น ห้องที่เป็นแนวยาว ควรเลือกใช้แอร์ผนังที่สามารถส่งความเย็นไปได้ไกลอย่างเช่น
แอร์ mitsubishi ที่มีระบบ Jet Flow สามารถส่งความเย็นไปได้ไกลถึง 11 เมตร ช่วยกระจายความเย็นได้ทั่วถึงทั้งห้องได้อย่างรวดเร็วแม้ในจุดที่อยู่ไกล
2. เลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ เพื่อช่วยให้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้น โดยปรับให้เป็น ฉลาก ประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ที่มีดาวตั้งแต่ 0-3 ดาว โดยยิ่งมีจำนวนดาวมาก ยิ่งหมายถึงประสิทธิภาพการประหยัดไฟฟ้าที่มากขึ้น
3. เลือกแอร์ผนังที่มีระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter)ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) เป็นระบบควบคุการทำงานของแอร์ด้วยไมโครคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการทำงานอัตโนมัติต่างๆ เช่นการปรับอุณหภูมิ ความเย็น ควบคุมรอบมอเตอร์ให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้โดยไม่ต้องหยุดการทำงาน เพื่อรักษาอุณหภูมิไม่ว่าห้องจะร้อนขึ้นหรือเย็นลง ซึ่งช่วยให้ประหยัดไฟฟ้าได้มากขึ้น อย่างเช่น
แอร์ carrier ระบบอินเวอร์เตอร์ ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าอินเวอร์เตอร์ทั่วไป 33% ในขณะที่
แอร์ Samsung ที่นอกจากจะมีระบบอินเวอร์เตอร์ ทำความเย็นอัตโนมัติ ยังมีเทคโนโลยี Digital Inverter Boost ช่วยให้ความเย็นเร็วขึ้นถึง 43% ได้ทั้งเย็นเร็วทั้งประหยัดไปพร้อมกัน
ท่านใดที่กำลังมองหาแอร์ผนังดีๆ ลองใช้ 3 ข้อนี้เป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อแอร์ผนังกันดู รับรองได้ว่านอกจากจะได้แอร์ที่ประหยัดไฟฟ้าแล้ว ยังเย็นไว เย็นเร็ว และเหมาะกับห้องของเราอย่างแน่นอนค่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website :
https://www.homepro.co.th/c/APP01