สหรัฐเผยรัสเซียเพิ่มกำลังทหารเป็น 190,000 นาย
ใกล้ชายแดนยูเครนนายไมเคิล คาร์เพนเตอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำองค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) กล่าวว่า รัสเซียได้เพิ่มกำลังทหารสู่ระดับ 190,000 นายใกล้ชายแดนยูเครนในขณะนี้
"เราประเมินว่ารัสเซียมีกำลังทหารราว 169,000-190,000 นายใกล้ชายแดนยูเครน เมื่อเทียบกับราว 100,000 นายเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนกำลังทหารครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปของรัสเซียนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2" นายคาร์เพนเตอร์กล่าว
ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียจะทำการซ้อมรบด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในวันพรุ่งนี้ โดยจะมีการยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) และขีปนาวุธร่อน (cruise missile) ซึ่งถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซีย ท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตในความขัดแย้งกับชาติตะวันตกในกรณียูเครน
กระทรวงฯระบุว่าการซ้อมรบดังกล่าวเป็นการทดสอบความพร้อมของศูนย์บัญชาการทางทหาร, หน่วยปฏิบัติการสู้รบ, เรือรบ และประสิทธิภาพของอาวุธนิวเคลียร์และไม่ใช่นิวเคลียร์
ทางด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การซ้อมรบในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกทางทหารที่มีการดำเนินการเป็นประจำ และไม่ได้บ่งชี้ถึงความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นกับชาติตะวันตก
การซ้อมรบดังกล่าวมีขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดบริเวณชายแดนรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่สหรัฐเตือนว่ารัสเซียอาจบุกโจมตียูเครนได้ทุกขณะ หลังจากที่สหรัฐและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียที่ต้องการให้มีการรับประกันว่า นาโตจะไม่รับยูเครนและประเทศซึ่งเคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิก, ยุติการติดตั้งอาวุธใกล้ชายแดนรัสเซีย ขณะที่สหรัฐและพันธมิตรจะต้องถอนกำลังทหารออกจากกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต