ผู้เขียน หัวข้อ: กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ RICHY อัพเป้าราคา 1.82 บ./หุ้น ชี้ปี 6 5คาดกำไรสุทธิโต 33%  (อ่าน 311 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0
กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ RICHY อัพเป้าราคา 1.82 บ./หุ้น ชี้ปี 6 5คาดกำไรสุทธิโต 33% จากยอดขายรอโอนสูงถึง 3.4 พันลบ. ประเมินฐานทุนแน่น - พีอี เรโชว์ ต่ำแค่ 5.2 เท่า

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) เชียร์ซื้อหุ้น บมจ. ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) คาดกำไรสุทธิปี65 เติบโต 33% ส่วนรายได้โตมากกว่า 30% จากการทยอยรับรู้ยอดขายรอโอนสูงถึง 3.4 พันล้านบาท ขณะที่เพิ่มทุนสำเร็จ หนุนฐานทุนแข็งแกร่ง และมีค่าพีอีต่ำแค่5.2 เท่า พร้อมปรับราคาพื้นฐานใหม่เป็น 1.82 บาทต่อหุ้นจากเดิม 1.47 บาทต่อหุ้น

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เผยแพร่บทวิเคราะห์ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้แนะนำซื้อหุ้นบมจ. ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) เนื่องจากสถานการณ์ปี2564 ยอดโอนแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีการระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก คาดว่ารายได้จากการโอนจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 84%จากงวดเดียวกันปีก่อน โดยแรงผลักดันสำคัญมาจากการเริ่มโอนโครงการขนาดใหญ่ คือเดอะริชพระราม 9 -ศรีนครินทร์มูลค่าขาย 2.1 พันล้านบาท ตั้งแต่กลางปี2564 เมื่อฐานรายได้สูง ก็ทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้อยู่ในเกณฑ์ต่ำ

ทั้งนี้ บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายปีนี้ปี2565 ในเชิงรุก จากสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยขึ้น ได้แก่การเปิดเมือง รัฐส่งเสริมด้วยการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV และต่ออายุมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองไปอีก 1 ปี คือ สิ้นสุดปลายปี2565 นี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการขายที่ 4.0 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 60% จากงวดเดียวกันปีก่อน) และรายได้จากการโอน 2.3 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 53%จากงวดเดียวกันปีก่อน)

โดยฝ่ายวิจัยได้คาดการณ์กำไรปีนี้โตต่อเนื่องได้อีกถึง 33% แม้ว่าในประมาณการมีสมมุติฐานรายได้ต่ำกว่าเป้าบริษัทอยู่15% เป็น 2.0 พันล้านบาท แต่ยังโตได้ 33% จากปีก่อน ทั้งนี้มีแรงสนับสนุนมาจากยอดขายรอโอน (Backlog) ที่สูง ณ สิ้นปี2564 ที่ 3.4 พันล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปี 2565-67 โครงการใหญ่ที่จะโอนได้ต่อเนื่องคือ เดอะริช พระราม 9-ศรีนครินทร์และเดอะริช เพลินจิต-นานา รวมทั้งโครงการที่จะก่อสร้างเสร็จและเริ่มโอนระหว่างปี, รายได้จากโครงการแนวราบที่จะเปิดขายปีนี้ 2 โครงการ

ขณะที่บริษัทมีสต็อกพร้อมขายและโอนได้ทันทีอีก 6 พันล้านบาท และมีแผนการเปิดขายโครงการใหม่ปีนี้รวมเป็น 4 โครงการ ที่มูลค่าขาย 6 พันล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการและคอนโด 2 โครงการ ตามรายละเอียดคือ แนวราบจะเป็นทาวน์โฮมทั้งสองโครงการ มูลค่าขายรวม 1 พันล้านบาท ได้แก่โครงการริชตัน พัฒนาการ สวนหลวง และ ริชตัน ดอนเมือง เพิ่มสิน ส่วนคอนโด อยู่ในทำเลพระราม 9 จำนวน 1 โครงการและอีก 1 โครงการ ยังอยู่ระหว่างพิจารณา

ฝ่ายวิจัยได้แนะนำซื้อ เนื่องจากราคาปิดปัจจุบันยังมี Upside อีกมาก ประเมินมูลค่าหุ้นยังถูก P/E และ P/BV ปี65 ที่เพียง 5.2 และ 0.6 เท่าตามลำดับ กำหนดราคาพื้นฐานใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 1.82 บาทต่อหุ้น จากเดิม 1.47 บาทต่อหุ้น ด้วย P/E ปี 2565 ที่ 7 เท่า ซึ่งเลื่อนใช้ปีประมาณการจากเดิมคือปี2564 ข้อดีคือ ปลายปีก่อนเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) สำเร็จได้เงินมาลงทุนเพิ่มอีก 322 ล้านบาท แม้เกิดDilution Effect 17% สำหรับ RICHY-W3 ที่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม ก็จะช่วยเพิ่มฐานทุนได้อีก 322 ล้านบาทเช่นกัน แต่คาดว่าจะทยอยแปลงมาเป็นหุ้นสามัญ ขณะที่อายุวอร์แรนท์เพียง 1 ปีและราคาใช้สิทธิเป็น 1.30 บาท นอกจากนี้จะมีการรับเหรียญดิจิทัล สำหรับการชำระค่าสินค้าที่อยู่อาศัยได้อีกด้วย