'อาร์เดิร์น' ส่งสัญญาณ
คลายกฎคุมโควิด หากโอมิครอนระบาดผ่านจุดสูงสุด
นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประกาศว่า นิวซีแลนด์จะยกเลิกข้อกำหนดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนผ่านจุดสูงสุดแล้ว ขณะกลุ่มผู้ประท้วงที่ยึดพื้นที่รอบรัฐสภาปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง
รายงานระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้แรงบันดาลใจจากการประท้วงของแคนาดา โดยได้นำรถบรรทุก รถยนต์ และรถจักรยานยนต์มาปิดเส้นทางจราจรรอบรัฐสภาในกรุงเวลลิงตันเป็นเวลาถึง 2 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลยกเลิกข้อกำหนดการฉีดวัคซีน
นางอาร์เดิร์นปฏิเสธที่จะกำหนดวันที่ตายตัว แต่ระบุว่า จะปรับลดข้อกำหนดการฉีดวัคซีนเมื่อโอมิครอนแพร่ระบาดถึงจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงกลางถึงปลายเดือนมี.ค.
นางอาร์เดิร์นแถลงต่อสื่อมวลชนว่า 'เราทุกคนต่างอยากกลับใช้ชีวิตแบบเดิม และฉันคาดว่ามันจะมาเร็วกว่าที่พวกคุณคิดไว้'
นางอาร์เดิร์นเสริมว่า 'หากมันเกิดขึ้น นั่นก็เป็นเพราะการผ่อนคลายข้อจำกัดจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนหลายพันคน ไม่ใช่เพราะจากที่พวกคุณเรียกร้อง' โดยกล่าวถึงผู้ประท้วง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การประท้วงครั้งนี้มีขึ้นเพื่อต่อต้านคำสั่งการบังคับวัคซีน แต่หลังจากนั้นก็ได้ลุกลามจนกลายเป็นการประท้วงเพื่อต่อต้านนางอาร์เดิร์นและรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ทั้งนี้ นิวซีแลนด์รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประมาณ 16,000 ราย และผู้เสียชีวิต 53 ราย นับตั้งแต่การแพร่ระบาด ซึ่งอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับมาตรฐานระดับโลก แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนส่งผลให้นิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันแตะมากกว่า 1,600 รายต่อวัน
ประมาณ 94% ของชาวนิวซีแลนด์ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว และบุคลากรด่านหน้าบางส่วนมีข้อบังคับให้ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน