นายกฯอิสราเอลชี้หาก
ฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านจะก่อให้เกิดความรุนแรงในตะวันออกกลาง
นัฟทาลี เบนเนตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงวานนี้ (20 ก.พ.) ว่า การที่สหรัฐและอิหร่านเตรียมฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2558 ขึ้นใหม่ร่วมกับชาติมหาอำนาจอื่น ๆ นั้น "อ่อนแอ" กว่าข้อตกลงฉบับเดิม และอาจนำไปสู่เหตุรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง
ข้อตกลงฉบับปี 2558 ได้มีการจำกัดปริมาณการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน ซึ่งส่งผลให้อิหร่านพัฒนาวัตถุดิบสำหรับผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ยากขึ้น เพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตรจากนานาชาติ
แต่ข้อตกลงมีอันต้องล้มเหลว เนื่องจากในปี 2561 อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงดังกล่าว และออกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีกครั้ง
"ข้อตกลงที่เกิดขึ้นใหม่นี้มีแนวโน้มที่จะสร้างความรุนแรงและความผันผวนในตะวันออกกลางมากขึ้น" นายเบนเนตต์กล่าวในการปราศรัยในกรุงเยรูซาเล็ม
"อิสราเอลจะไม่ยอมรับอิหร่านในฐานะรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์" นายเบนเนตต์กล่าว พร้อมย้ำถึงจุดยืนของอิสราเอลที่มีมาอย่างยาวนานว่า "อิสราเอลจะรักษาเสรีภาพในการดำเนินการเพื่อปกป้องตัวเองเสมอ"