สิงคโปร์เล็ง
ผ่อนปรนมาตรการสกัดโควิด หลังสถานการณ์กระเตื้อง
นายลอว์เรนซ์ หว่อง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสิงคโปร์เปิดเผยว่า สิงคโปร์ "ค่อนข้างมั่นใจ" ในเรื่องการรับมือกับโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งแพร่ระบาดได้ในระดับสูง แม้สิงคโปร์ตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม
ทั้งนี้ นายหว่อง ซึ่งควบตำแหน่งประธานร่วมประจำหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจโควิด-19 ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า สิงคโปร์อาจพิจารณาผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 เมื่อสถานการณ์การระบาดระลอกล่าสุดกระเตื้องขึ้น
"เราค่อนข้างมั่นใจในเรื่องการรับมือกับการระบาดของโอมิครอนระลอกนี้ โดยตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และอาจทะลุระดับ 20,000 ราย แต่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการป่วยรุนแรงน้อยลง เพราะสิงคโปร์มีอัตราการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ในระดับสูงมาก" นายหว่องกล่าว
นายหว่องระบุว่า สิงคโปร์ตั้งเป้าผ่อนปรนมาตรการสกัดโควิด-19 เพิ่มเติมเมื่อสถานการณ์โอมิครอนดีขึ้น โดยโรงพยาบาลและหออภิบาลผู้ป่วยหนัก (ICU) ไม่ได้ประสบปัญหาผู้ป่วยล้นจากกรณีที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ระบบสาธารณสุขยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม โดยสิงคโปร์รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 19,420 รายเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา
"เราเชื่อว่าเราจะสามารถผ่อนปรนมาตรการจำกัดได้ หากสถานการณ์ดำเนินต่อไปในลักษณะนี้" นายหว่องกล่าว โดยเสริมว่า หากเกิดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่รุนแรงน้อยกว่าโอมิครอน เราก็ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าโรคระบาดใกล้จะเข้าสู่จุดสิ้นสุดแล้ว
นายหว่องกล่าวว่า โลกจะยังคงต้องเผชิญกับไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ในระยะใกล้ โดยสิงคโปร์จะจับตาสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด "เราหวังว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจะมีความรุนแรงน้อยกว่าโอมิครอน และหากเป็นเช่นนั้น เราก็มั่นใจได้ว่าโรคระบาดกำลังจะเข้าสู่จุดสิ้นสุดแล้ว"