ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวนน้อยลงหลังรับข่าว  (อ่าน 377 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prichas

  • *
  • กระทู้: 1,059
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวนน้อยลงหลังรับข่าวความตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครนไปแล้ว

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนน้อยลง หลังจากนักลงทุนตอบรับข่าวสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนไปพอสมควรแล้ว ขณะเดียวกันก็มองว่าหากชาติตะวันตกมีการคว่ำบาตรรัสเซีย หลังรัสเซียส่งทหารเข้าควบคุมสองแคว้นทางตะวันออกของยูเครน ก็น่าจะส่งผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียน้อยกว่าทางยุโรป

ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้โดยรวมเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก

ให้แนวรับ 1,670-1,680 จุด และแนวต้าน 1,700 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (22 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,596.61 จุด ลดลง 482.57 จุด หรือ -1.42%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,304.76 จุด ลดลง 44.11 จุด หรือ -1.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,381.52 จุด ลดลง 166.55 จุด หรือ -1.23%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.36 จุด หรือ +0.04% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 97.97 จุด หรือ +0.42% ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (23 ก.พ.) เนื่องในวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิ
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ก.พ.) ที่ระดับ 1,691.12 จุด ลดลง 3.20 จุด, -0.19%
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,290.19 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ก.พ.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 ก.พ.) เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 92.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 ก.พ.) อยู่ที่ 6.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 32.45 อ่อนค่าต่อเนื่อง กังวลสถานการณ์ยูเครนรุนแรง ให้กรอบ 32.30-32.50
คณะรัฐมนตรีเบรกประกาศ สธ.ยกเลิก "ยูเซ็ป" ผู้ป่วยโควิด-19 ไม่มีอาการให้สิทธิผู้ป่วยรักษาได้ฟรีทุกที่ตามเดิม นายกฯบอกชะลอไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์ติดเชื้อดีขึ้น ขณะที่ศบค. เตรียมเลิก RT-PCR วันที่ 5 ของนักท่องเที่ยวเข้าประเทศวันนี้
คณะรัฐมนตรีเคาะปรับภาษีสรรพสามิตรถทั้งระบบ หนุนอีวีถูกลง มีผลปีนี้ 6 ประเภท ครอบคลุมรถ 27 ประเภท ชี้ภาษีรถใช้น้ำมันปรับขึ้นปี 69-78 อนุมัติลดอากรขาเข้า CBU ทั้งคัน เสียรายได้ 6 หมื่นล้าน "สุพัฒนพงษ์" นัดแจงค่ายรถยนต์ สัปดาห์หน้า "อาคม" ยอมรับกระทบรายได้รัฐระยะสั้น แต่หนุนเศรษฐกิจระยะยาว "สรรพสามิต" เร่งหาข้อสรุปเงินหนุนอีวี 4 หมื่นล้าน
ตลาดหุ้นดิ่ง น้ำมัน-สินทรัพย์ ปลอดภัยพุ่งหลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ส่งทหารรัสเซียเข้าไปยังสองภูมิภาคทางตะวันออกของยูเครน เพิ่มความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ สภาธุรกิจไทย-รัสเซีย หวั่นรัสเซียโดนคว่ำบาตรดันต้นทุนธุรกิจ บล.กสิกรไทย จับตาฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาพักเงิน "เงินบาท" แนวโน้มอ่อนค่า
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับบริษัทต่างประเทศเข้าจดทะเบียน (Foreign Listing) เพื่อส่งเสริมให้บริษัทต่างประเทศเข้าระดมทุนผ่านการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยได้สะดวกขึ้น โดยปรับลดระยะเวลาการมีที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor:FA) ดูแลบริษัทหลังเข้าจดทะเบียนจาก 3 ปี เป็น 1 ปี เพื่อให้เทียบเท่าหลักเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนของบริษัทไทย และยังสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ด้วย อีกทั้งลดระยะเวลาการห้ามขายหุ้น (Silent Period) ของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารงาน (Strategic Shareholders) จาก 3 ปี เป็น 1 ปี 6 เดือน โดยเมื่อครบ 1 ปีแล้ว จะสามารถขายหุ้นที่ถูกห้ามขายได้ 20% และจะสามารถขายหุ้นที่ถูกห้ามขายส่วนที่เหลือได้เมื่อครบ 1 ปี 6 เดือน
นายกฯเซ็นลงนามรับรอง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและคณะ ส่งกลับสภาฯ แล้ว รอบรรจุระเบียบวาระ "อนุทิน" ยกหูปราม "ครูแก้ว" หลังพูดเรื่องถอนตัว หากกฎหมายกัญชาไม่ผ่านสภาฯ
*หุ้นเด่นวันนี้
WICE (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 20.00 บาท คาดกำไรไตรมาส 4/64 ที่ 169 ลบ. +184%YoY,+4%QoQ หนุนด้วยค่าระวางและปริมาณการขนส่งที่ทรงตัวในระดับสูง บริษัทลูก ETL เตรียมเข้าตลาดปลายปี พร้อมเติบโตในธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน เตรียมขยายตู้คอนเทนเนอร์ (ล่าสุดเพิ่มมา 500 ตู้) ด้านธุรกิจขนส่งทางรางจะเริ่มรับรู้รายได้ในปีนี้ KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 2022-2023 ที่ 682 ลบ. และ 778 ลบ. +30%YoY, +14%YoY ตามลำดับ
SPRC (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 12 บาท ราคาหุ้นร่วง 21%ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนข่าวน้ำมันรั่วถึง 3 ครั้งไปแล้ว ขณะที่แจ้งงบไตรมาส 4/64 ดีเกินคาดมีกำไรสุทธิ 1,854 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1,205%qoq และ 71%yoy และสูงกว่าที่เราคาดไว้ 26% ประกาศปันผล 0.1785 บาทให้ Dividend yield 2% ขึ้น XD 7 มี.ค. 65
NER (โกลเบล็ก) "ซื้อ" Bloomberg Consensus 10.00 บาท คาดว่าความต้องการใข้ยางพารายังคงสูงต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มคลี่คลายลง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตผลประกอบการปี 65 ขณะที่ ธุรกิจแผ่นปูรองปศุสัตว์ซึ่งปัจจุบันได้กระแสตอบรับดี จะเป็น New-S-Curve ให้กับบริษัทในอนาคต เบื้องต้น Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 ราว 2,039 ลบ. +10%YoY