ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด กังวลวิกฤตยูเครน หุ้นพลังงานพยุงตลาด  (อ่าน 358 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ luktan1479

  • *
  • กระทู้: 1,132
  • Popular Vote : 0
ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด กังวลวิกฤตยูเครน หุ้นพลังงานพยุงตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครนที่ตึงเครียดมากขึ้น

ณ เวลา 21.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,938.72 จุด ลบ 140.46 จุด หรือ 0.40%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นสวนทางตลาด ขานรับราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นรับข่าววิกฤตยูเครน

ราคาหุ้นของโฮม ดีโปท์ อิงค์ และเมซีส์ อิงค์ ดีดตัวขึ้นขานรับรายงานตัวเลขกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/64

ส่วนราคาหุ้นคริสปี้ ครีมปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังรายงานตัวเลขกำไรรายไตรมาสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่บริษัทเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในเดือนก.ค.2564

บริษัทจำนวนกว่า 400 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 4 แล้ว โดย 77% ในจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในยูเครน หลังจากที่รัสเซียให้การรับรองเอกราชแก่แคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน และส่งกำลังทหารเข้าไปยัง 2 แคว้นดังกล่าวซึ่งฝักใฝ่รัสเซีย

สหรัฐเตรียมประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในวันนี้ เพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครนดังกล่าว ขณะที่อังกฤษประกาศคว่ำบาตรธนาคารรัสเซีย 5 แห่ง รวมทั้งนักธุรกิจชาวรัสเซีย 3 คน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ ซึ่งอาจเร็วและแรงกว่าที่คาดไว้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.

ขณะเดียวกัน ตลาดจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะแถลงต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2-3 มี.ค. โดยอาจเป็นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินต่อสาธารณะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมหลังจากนั้นอีกเพียงไม่กี่วัน

ทั้งนี้ นายพาวเวลจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันที่ 2 มี.ค. และแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 3 มี.ค. โดยการแถลงทั้งสองวันจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย