ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าทรงตัว นลท.ประเมินสถานการณ์หลังมหาอำนาจคว่ำบาตรรัสเซีย  (อ่าน 343 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ fairya

  • *
  • กระทู้: 1,190
  • Popular Vote : 0
ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าทรงตัว นลท.ประเมินสถานการณ์หลังมหาอำนาจคว่ำบาตรรัสเซีย

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าทรงตัว ขณะที่นักลงทุนประเมินว่า การที่ชาติมหาอำนาจใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อตอบโต้รัสเซีย อาจหลีกเลี่ยงไม่ให้ความขัดแย้งในยูเครนบานปลายไปสู่สงครามได้

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,682.90 จุด เพิ่มขึ้น 162.90 จุด หรือ +0.69% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,476.15 จุด เพิ่มขึ้น 19.01 จุด หรือ +0.55%

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (23 ก.พ.) เนื่องในวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิ

บรรดาชาติมหาอำนาจต่างออกมาประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียให้การรับรองเอกราชแก่แคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน นำโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐที่ออกมาประกาศมาตรการคว่ำบาตรธนาคาร VEB ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของรัสเซีย และธนาคาร PSB ซึ่งเป็นธนาคารของกองทัพรัสเซีย โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารทั้งสองแห่งไม่สามารถทำธุรกรรมในรูปสกุลเงินดอลลาร์ได้ นอกจากนี้ยังคว่ำบาตรตราสารหนี้ของรัสเซีย รวมถึงกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลของรัสเซียตลอดจนคนในครอบครัว

ด้านนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศระงับการอนุมัติท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Nord Stream 2 เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.)

ส่วนนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ประกาศคว่ำบาตรธนาคารรัสเซีย 5 แห่ง ได้แก่ รอสซิยา, ไอเอส แบงก์, เจเนอรัล แบงก์, พรอมสวียาซแบงก์ และแบล็คซี แบงก์ รวมทั้งชาวรัสเซียที่มีความสำคัญ 3 คน เพื่อตอบโต้มาตรการทางทหารของรัสเซียดังกล่าว

นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเช่นกัน ขณะที่นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรอบแรกต่อรัสเซียเมื่อวานนี้ (22 ก.พ.)

สำหรับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานแล้วนั้น ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.0% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่ 3 ทำให้อัตราดอกเบี้ยกลับคืนสู่ระดับเดียวกับก่อนเกิดโรคระบาด พร้อมระบุว่าจะขายตราสารหนี้เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ RBNZ ยังส่งสัญญาณว่า จะเดินหน้าใช้แนวทางคุมเข้มนโยบายการเงินในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งหนุนให้ดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นกว่า 0.5% แตะที่ 0.6765 ดอลลาร์สหรัฐ หลังการประกาศดังกล่าว