ผู้เขียน หัวข้อ: รง.น้ำตาล คาดปิด.บอ้อยฤดู 64/65 ไม่เกินกลางมี.ค.นี้ ปริมาณผลผลิตทั้งปีที่ 87 ล้านตัน  (อ่าน 382 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ fairya

  • *
  • กระทู้: 1,190
  • Popular Vote : 0
รง.น้ำตาล คาดปิด.บอ้อยฤดู 64/65 ไม่เกินกลางมี.ค.นี้ ปริมาณผลผลิตทั้งปีที่ 87 ล้านตัน

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการ บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด (TSMC) เปิดเผยว่า ภาพรวมฤดูการ.บอ้อยประจำปี 2564/65 หลังจากที่โรงงานทั้ง 57 โรง ได้เริ่มทยอยเปิดรับผลผลิตอ้อยเข้า.บตั้งแต่ช่วงวันที่ 7 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวม 79 วัน พบว่า มีปริมาณอ้อยเข้า.บแล้ว 69.72 ล้านตันอ้อย สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของฤดู.บปีก่อนที่มีผลผลิต 61.36 ล้านตันอ้อย

ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จมาจากการประกันการรับซื้อราคาอ้อยที่ตันละ 1,000 บาท ช่วยสร้างแรงจูงใจให้แก่เกษตรกรหันมาเพาะปลูกอ้อย และร่วมกันดูแลผลผลิตอ้อยให้มีคุณภาพและจัดส่งให้แก่โรงงาน ทำให้คาดว่าปริมาณผลผลิตอ้อยเข้า.บในปีนี้มากกว่าปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 87 ล้านตัน ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 90 ล้านตัน

ขณะที่สัดส่วนปริมาณอ้อยสดก็ปรับตัวดีขึ้น โดยมีปริมาณ 53.17 ล้านตันอ้อย คิดเป็น 76.27% และปริมาณอ้อยไฟไหม้ลดลงเหลือ 16.54 ล้านตันอ้อย หรือคิดเป็น 23.73% ซึ่งมาจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ตั้งแต่หน่วยงานภาครัฐ ชาวไร่อ้อยและโรงงาน ช่วยกันสร้างความเข้มแข็งแก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ที่ต้องการแก้ไขปัญหาการเผาอ้อยที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ในขณะเดียวกัน มีมาตรการสร้างแรงจูงใจเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวไร่ด้วยการรับซื้อใบอ้อย พร้อมสนับสนุนรถตัดอ้อยและการเพิ่มประสิทธิภาพการ.บสกัดของโรงงาน ส่งผลดีต่อผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อยเฉลี่ย (ยิลด์) อยู่ที่ 107.64 กิโลกรัมต่อตันอ้อย คิดเป็นผลผลิตน้ำตาลรวม 75.05 ล้านกระสอบ แม้ว่าการจัดเก็บผลผลิตในช่วงนี้จะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้เป็นอุปสรรคในการจัดเก็บผลผลิต

โรงงานน้ำตาล ประเมินว่าภายในกลางเดือนมี.ค. นี้ จะสามารถประกาศปิด.บอ้อยประจำฤดูการผลิตนี้ได้ โดยในระหว่างนี้จะเร่งสำรวจอ้อยค้างไร่ เพื่อป้องกันอ้อยที่ยังหลงเหลือ พร้อมให้คำแนะนำและเตรียมพร้อมแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการเพาะปลูกอ้อยในฤดูการผลิตใหม่ เพื่อเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกและปริมาณผลผลิตอ้อยให้มากขึ้น หลังจากได้ประกาศระบบประกันราคาอ้อย ในรอบการเพาะปลูกใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2565/66-2567/68) โดยรับซื้ออ้อยสดที่มีคุณภาพ ในราคา 1,200 บาทต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวานเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ที่ 12.61 ซี.ซี.เอส. ซึ่งจะเริ่มในฤดูการเพาะปลูกปีนี้เป็นปีแรก