ผู้เขียน หัวข้อ: TEAMG คาดปี 65 โตต่อเนื่องหลังตุน Backlog กว่า 3.7 พันลบ.-ประมูลงานใหม่  (อ่าน 429 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0
TEAMG คาดปี 65 โตต่อเนื่องหลังตุน Backlog กว่า 3.7 พันลบ.-ประมูลงานใหม่

นายอภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 65 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมประเมินปริมาณการรับงานยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งปัจจุบันยังมีปริมาณงานในมือ (Backlog) ประมาณ 3,750 ล้านบาท และจะทยอยรับงานใหม่เข้ามาในปีนี้ตลอดทั้งปี ประกอบกับการรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากการผลิตงานในมือที่มีจำนวนมาก

นอกจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าประมูลงานใหม่ในโครงการขนาดใหญ่ของทางภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงการลงทุนเพิ่มในโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ที่แน่นอน (Recurring Income) จึงคาดว่ารายได้ในปี 65 บริษัทน่าจะเติบโตจากปีก่อน ตามวิสัยทัศน์ "ผู้นำด้านบริการแบบครบวงจรในภูมิภาคและพัฒนาธุรกิจนวัตกรรม" และผลักดันให้ผลการดำเนินงานในปี 65 เติบโตได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา

สำหรับผลการดำเนินงานปี 64 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1,787.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 1,721.32 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 111.54 ล้านบาท จากปี 63 ที่มีกำไร 119.37 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้หลักจากการขายและให้บริการ ที่ 1,759.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.36 ล้านบาท หรือ 3.19% และมีรายได้อื่นๆ อยู่ที่ 21.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.34 ล้านบาท หรือ 167.38% โดยรายได้ส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้น เป็นรายได้จากงานภาครัฐเป็นหลัก เนื่องจากการรับรู้รายได้ของโครงการขนาดใหญ่ที่รับเข้ามาใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากงานในมือ (Backlog) ทีมีอยู่เดิม

สำหรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้งานจากภาคเอกชนยังคงทรงตัว และงานใหม่ในต่างประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งของรายได้มาจากการที่บริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการลงทุน ซึ่งเริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรกอยู่ที่ 22 ล้านบาท จากโครงการทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ โครงการบำบัดน้ำเสีย โครงการพลังงานทดแทน และโครงการผลิตน้ำประปา

"ท่ามกลางภาวะวิกฤตโควิด-19 TEAMG ยังคงเน้นกลยุทธการบริหารการจัดการต้นทุน รวมถึงการขยายการลงทุนในธุรกิจอื่นที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง เป็นไปตามแผนงานและกำหนดการที่วางไว้ รวมถึงรายได้ของบริษัทฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการรับงานโครงการขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา รวมถึงรายได้จากลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคที่สร้างรายได้ประจำให้กับบริษัทฯ และเชื่อมั่นว่าในปีนี้ บริษัทฯ จะสามารถรักษาการการเติบโตต่อได้"นายอภิชาติ กล่าว