ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าร่วง วิตกคว่ำบาตรรัสเซียกระทบเศรษฐกิจโลก
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลง โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากสถานการณ์ความไม่สงบในยูเครน ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลกทะลุเพดาน 110 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการคว่ำบาตรที่นานาชาติระดมใส่รัสเซีย
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,341.95 จุด ร่วงลง 502.77 จุด หรือ -1.87%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,518.18 จุด ลดลง 243.53 จุด หรือ -1.07% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,474.45 จุด ลดลง 14.38 จุด หรือ -0.41%
ภาวะการซื้อขายในภูมิภาคยังถูกกดดันจากวิกฤตในยูเครน โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งของสหรัฐได้แก่ แอปเปิล, กูเกิล, ฟอร์ด และฮาร์เลย์-เดวิดสัน ร่วมประณามและคัดค้านการที่รัสเซียใช้กำลังรุกรานยูเครน หลังจากที่รัสเซียระดมยิงจรวดเข้าใส่เมืองคาร์คีฟซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน
ทางด้านบริษัทเอ็กซอนโมบิล คอร์ปเปิดเผยว่า จะระงับการดำเนินงานในโครงการร่วมทุน Sakhalin-1 LNG ในรัสเซีย และจะถอนตัวออกจากโครงการดังกล่าว เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยเปิดฉากด้วยการกล่าวว่า สหรัฐจะยืนเคียงข้างประชาชนชาวยูเครน พร้อมกับขอให้สมาชิกสภาคองเกรสทุกคนลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครน นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังได้ใช้เวที State of the Union ประกาศห้ามไม่ให้เครื่องบินของรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าสหรัฐ ซึ่งเป็นการใช้มาตรการที่สอดคล้องกับสหภาพยุโรป (EU) และแคนาดา ที่ประกาศก่อนหน้านี้ว่าไม่ให้เครื่องบินของรัสเซียบินผ่านน่านฟ้า
ด้านนักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินไอเอ็นจี (ING) ระบุว่า "ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยังคงมีอิทธิพลเหนือตลาดในช่วงนี้ และการที่รัสเซียประกาศจะไม่จ่ายดอกเบี้ยแก่ผู้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลรัสเซียในต่างประเทศนั้น อาจทำให้นักลงทุนยังคงหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยแทน"
