ผู้เขียน หัวข้อ: SO ตั้ง VC เสาะหาลงทุนสตาร์ทอัพอนาคตดี-จ่อปิดดีล M&A ไอที outsourcing  (อ่าน 375 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ hs8jai

  • *
  • กระทู้: 769
  • Popular Vote : 0
SO ตั้ง VC เสาะหาลงทุนสตาร์ทอัพอนาคตดี-จ่อปิดดีล M&A ไอที outsourcing

นายณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.สยามราชธานี (SO) กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งหน่วยงานใหม่ที่รับผิดชอบและดูแลเรื่องโครงการและการลงทุนต่างๆโดยตรง (Investment and Project) รวมถึงการหาบริษัทสตาร์ทอัพที่มีความโดดเด่นทางด้านเทคโนโลยี หรือหาบริษัทร่วมการลงทุน (VC) เข้ามาเป็นพันธมิตรต่อเนื่อง
อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้พันธมิตรร่วมมาเป็นคณะกรรมการบริษัทสยามราชธานี เพื่อร่วมกำหนดนโยบายและทิศทางของบริษัท และเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆร่วมกับบริษัท เพื่อให้บริษัทมีผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นเพื่อนำเสนอและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบหลังบ้าน (Node) ของ Bitkub chain จาก POA ไปเป็น POSA ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับ Bitkub ซึ่งปัจจุบันบริษัทส่งพนักงาน Outsource เข้าไปทำงานใน Bitkub และในอนาคตจะพยายามเพิ่มผู้ที่เข้าใจเกี่ยวกับ Cryptocurrency และ Blockchain เข้าไปทำงานใน Bitkub เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันรายได้ที่มาจากการให้บริการที่มาจาก Bitkub บริษัทรับเป็นเหรียญ KUB ซึ่งมีรายได้เข้ามาราว 500,000-1,000,000 บาท/ไตรมาส

สำหรับความคืบหน้าดีล M&A ใน ADI ซึ่งเป็นบริษัท IT outsourcing และ IT service ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำดีล ซึ่งได้มีการศึกษาเกี่ยวกับโอกาสในการ Synergy ที่เข้ามาเสริมศักยภาพให้กับ SO รวมถึงด้านการเงิน และภาษี คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส 1/65 หรือไตรมาส 2/65

นางสาวกัณธิมา แจ้งวันสุข กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามราชธานี (SO) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 2 พันล้านบาท โดยที่บริษัทวางแผนกลยุทธ์ในการผลักดันการเติบโตของรายได้จาก 2 ด้าน ได้แก่ การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการบริการการจ้างเหมาบริการครบวงจรมากขึ้น เพื่อให้เกิดการวิจัยและการพัฒนา (R&D) และเกิดนวัตกรรมใหม่เพิ่มขึ้น และการพัฒนาธุรกิจใหม่ร่วมกับพันธมิตรของบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทมีความพร้อมในการลงทุนธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นเมื่อเห็นโอกาส ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และการบริการรูปแบบใหม่ที่จะสามารถตอบโจทย์ตามความต้องการลูกค้าได้หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น และส่งผลให้บริษัทขยายฐานได้กลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงเน้นในการรักษาฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ใช้บริการกับบริษัท ซึ่งบริษัทมีการติดตามลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้ไม่ต่ำกว่า 90% อีกทั้งยังมีการเข้าไปประมูลงานใหม่ๆกับลูกค้าต่อเนื่อง ในขณะที่ลูกค้ารายใหม่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมามีลูกค้ารายใหม่เข้ามาใช้บริการของบริษัทราว 100 ราย หรือเติบโตขึ้น 19% ซึ่งทำให้บริษัทยังสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น และมีการพัฒนา Solution ใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้ามีการต่อสัญญาอย่างต่อเนื่อง