ASIMAR กางแผน
ปีนี้ดันรายได้โต 10% จากสัญญาณงานซ่อม-ต่อเรือปลายปี 64 ฟื้น
นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ (ASIMAR) เปิดเผยว่า แผนงานในปี 65 บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน จากปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ราว 245 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด และการเดินหน้าประมูลงานใหม่ทั้งจากภาครัฐและเอกชน
"แผนธุรกิจของ ASIMAR ในปีเสือทอง และปีนี้ครบรอบ 40 ปีของการก่อตั้งบริษัท ทีมบริหารยังคงมุ่งมั่นสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจ โดยแผนปี 65 นี้ ยังคงเดินหน้าเร่งประมูลงานใหม่ และในช่วงไตรมาส 1/65 นี้ได้ยื่นประมูลงานกับทางภาครัฐ โดยเป็นงานต่อเรือ คาดทยอยประกาศผลงานภายในไตรมาส 2/65 นี้ ส่วนงานเอกชนอยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติม เป็นกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว คาดทราบผลชัดเจนภายในไตรมาส 2-3/65 และมองว่าโอกาสอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานของธุรกิจการขนส่งทางน้ำ ซึ่งมีแนวโน้มความต้องการต่อเนื่องไม่มีหยุด" นายสุรเดช กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 ล้านบาท เติบโต 7% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากงานซ่อมเรือ 371 ล้านบาท และรายได้จากงานต่อเรือและจัดหาเรือ 136 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท ลดลง 9 ล้านบาท จากผลกระทบสถานการณ์ COVID ช่วงไตรมาส 3/64 ลูกค้าเลื่อนเข้าซ่อมและขาดกำลังพล แต่กลับมารับงานได้ตามปกติในช่วงปลายปี
"แม้ในปีที่ผ่านมา เอเชียน มารีนฯ ยังเจอความท้าทายในหลายปัจจัย แต่ด้วยกลยุทธ์ และแผนธุรกิจที่วางไว้อย่างรัดกุม ส่งผลให้ผลงานปี 64 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย แต่อาจจะมีสะดุดในช่วงไตรมาส 3/64 เหตุจากสถานการณ์โควิดที่รุนแรงในโซนพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ทำให้ลูกค้าที่จะนำเรือมาซ่อมต้องชะลอดูสถานการณ์ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มเรือบรรทุกสินค้า ถ้ามีลูกเรือติดโควิดแม้แต่คนเดียวก็ต้องถูกกักตัวทั้งลำ ไม่สามารถส่งสินค้าได้ แต่ในช่วงไตรมาส 4/64 สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จากเดิมที่ลูกค้ามีการชะลอการซ่อมเรือ และงานต่อเรือ ก็กลับมาส่งงานให้ตามปกติ ทำให้ผลงานยังคงเป็นไปตามเป้า และสามารถส่งมอบงานให้ลูกค้าได้ตามกำหนด" นายสุรเดชกล่าว
อีกหนึ่งความท้าทายของบริษัทคือ เรื่องการขาดแคลนแรงงาน เนื่องด้วยมาตรการภาครัฐที่ไม่สามารถนำแรงงานเข้ามาทำงานในประเทศได้ จึงปรับแผนรับแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศมาทดแทนก่อน แต่ในปัจจุบันกระทรวงแรงงาน เปิดให้นำเข้าแรงงานต่างชาติเข้ามาในประเทศได้แล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 16 ก.พ. 65) ทางบริษัทจึงเร่งหาแรงงานเพิ่มเติมเพื่อรองรับงานในอนาคต และคาดสถานการณ์จะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป