ผู้เขียน หัวข้อ: ราคาน้ำมัน WTI พุ่งเหนือ $111 ทำนิวไฮ 11 ปี ท่ามกลางวิกฤตยูเครน  (อ่าน 390 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Hanako5

  • *
  • กระทู้: 861
  • Popular Vote : 0
ราคาน้ำมัน WTI พุ่งเหนือ $111 ทำนิวไฮ 11 ปี ท่ามกลางวิกฤตยูเครน

ราคาน้ำมันดิบยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยสัญญาล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 111 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งเหนือ 111 ดอลลาร์เช่นกัน ก่อนที่ราคาน้ำมัน WTI และเบรนท์จะชะลอตัวในเวลาต่อมา

ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนกังวลว่าการที่สหรัฐและชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกพลังงานไปสู่ตลาด นอกจากนี้ ราคาน้ำมันไม่ได้รับผลกระทบจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) มีมติระบายน้ำมันจำนวน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาด

ณ เวลา 19.20 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 5.73 ดอลลาร์ หรือ 5.5% สู่ระดับ 109.14 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดีดตัวแตะระดับ 111.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2554 ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 5.84% สู่ระดับ 111.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดีดตัวแตะระดับ 111.78 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2556

นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐเปิดกว้างที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย แต่ก็จะพิจารณาถึงผลกระทบต่อตลาดโลกและราคาพลังงานในสหรัฐก่อนที่จะมีการดำเนินการดังกล่าว

"เรากำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว โดยเราได้วางทางเลือกนี้อยู่บนโต๊ะแล้ว แต่เราจำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น"
แคนาดาประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ส่วนสหรัฐและชาติตะวันตกประกาศตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT ขณะที่สหรัฐประกาศอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียในสหรัฐ และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกรรมกับธนาคารกลางรัสเซีย

ทางด้าน IEA มีมติระบายน้ำมันจำนวน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาด

IEA จัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้เพื่อหารือถึงแนวทางในการสกัดราคาน้ำมัน หลังพุ่งขึ้นทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในยูเครน หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ทั้งนี้ IEA ประกอบด้วยสมาชิก 30 ประเทศ โดยสหรัฐจะระบายน้ำมันราว 30 ล้านบาร์เรลจากจำนวนทั้งหมด 60 ล้านบาร์เรล

นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันนี้เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตสำหรับเดือนเม.ย.

แหล่งข่าวคาดการณ์ว่าโอเปกพลัสจะมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนเม.ย.

ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสมีมติในเดือนก.ค.2564 ในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในแต่ละเดือน จนถึงเดือนเม.ย.2565

ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่จะเปิดเผยในวันนี้