ผู้เขียน หัวข้อ: ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงใกล้หลุด $1,930 ดอลล์แข็ง-บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด  (อ่าน 427 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ailie662

  • *
  • กระทู้: 817
  • Popular Vote : 0
ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงใกล้หลุด $1,930 ดอลล์แข็ง-บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด

ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงใกล้หลุด 1,930 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ณ เวลา 22.35 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 9.10 ดอลลาร์ หรือ 0.50% สู่ระดับ 1,934.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

นักลงทุนจับตาวิกฤตการณ์ในยูเครน โดยคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนจะจัดการเจรจาสันติภาพรอบ 2 ในวันนี้ หลังจากที่การเจรจารอบแรกไม่สามารถบรรลุข้อตกลงแต่อย่างใด

นอกจากนี้ นักลงทุนติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้

ทั้งนี้ นายพาวเวลระบุว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต

นายพาวเวลระบุว่า เงินเฟ้อที่พุ่งสูงและตลาดแรงงานที่ตึงตัวอย่างมากเป็นสาเหตุที่ทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

"เราคาดว่าจะเป็นการเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมของเราในเดือนนี้ และเฟดจะทำการปรับลดขนาดงบดุลภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 8.5 ล้านล้านดอลลาร์"

"ผลกระทบในระยะใกล้ต่อเศรษฐกิจสหรัฐจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน, สงครามที่เกิดขึ้น, มาตรการคว่ำบาตร และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมาก โดยเราจะต้องดำเนินการตามข้อมูลที่ได้รับ และแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป" นายพาวเวลกล่าว
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงเท่าใด โดยระบุแต่เพียงว่า เฟดคาดหวังว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในปีนี้

นอกจากนี้ นายพาวเวลระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบที่เบาบางลงต่อเศรษฐกิจ ขณะที่การจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อถือเป็นปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญที่สุด

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่งในเดือนดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 467,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%