ราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด WTI ดีดเหนือ $111 เบรนท์ทะลุ $114 กังวลวิกฤตยูเครน
ราคาน้ำมันดิบยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสัญญาล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 111 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานเหนือ 114 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลว่าการที่สหรัฐและชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกพลังงานไปสู่ตลาด
ณ เวลา 20.51 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 4.27 ดอลลาร์ หรือ 3.96% สู่ระดับ 111.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 3.59% สู่ระดับ 114.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI มีแนวโน้มทะยานขึ้น 18% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 14% ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันทำสถิติพุ่งขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2563
นักลงทุนกังวลต่อความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นจากการสู้รบระหว่างกองกำลังรัสเซียและยูเครน หลังมีรายงานการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน
อย่างไรก็ดี นายราฟาเอล มาริเอโน กรอสซี ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เปิดเผยว่า เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในยูเครน ไม่ได้รับความเสียหายจากการถูกรัสเซียโจมตี และไม่มีการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีแต่อย่างใด
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียถือเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป
นายกรอสซีกล่าวว่า กองกำลังรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธถล่มอาคารฝึกอบรมแห่งหนึ่ง แต่อาคารที่มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไม่ได้ถูกโจมตีแต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายกรอสซียังเปิดเผยว่า ทหารรัสเซียได้เข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว แต่ก็ยังคงให้เจ้าหน้าที่ของยูเครนปฏิบัติงานในโรงไฟฟ้าต่อไป
นักลงทุนยังจับตาความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก