ภาวะ
ตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วงต่ำสุดในรอบ 1 ปี วิกฤตยูเครนกดดันตลาด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันศุกร์ (4 มี.ค.) สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก หลังมีรายงานข่าวว่าโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ท่ามกลางการสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างทหารของยูเครนและรัสเซีย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 421.78 จุด ร่วงลง 15.58 จุด หรือ -3.56% และร่วงลง 7% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในเดือนมี.ค. 2563
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,061.66 จุด ร่วงลง 316.71 จุด หรือ -4.97%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,094.54 จุด ร่วงลง 603.86 จุด หรือ -4.41% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,987.14 จุด ร่วงลง 251.71 จุด หรือ -3.48%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงมากกว่า 6% แล้วนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากยุโรปต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย
นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกหลังมีรายงานว่า ทหารรัสเซียได้ยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนซึ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปได้แล้ว
ดัชนีความผันผวนของตลาดหุ้นยูโรโซนแตะระดับ 45 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563
หุ้นกลุ่มธนาคารของยูโรโซน ร่วงลง 7.9% เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นหลังจากชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียนั้นทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอลง
หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลง 5.6%
หุ้นธนาคารไอเอ็นจีของเนเธอร์แลนด์ ร่วง 9.7% หลังเปิดเผยว่า เงินกู้ราว 700 ล้านยูโร (771 ล้านดอลลาร์) ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อบุคคลและองค์กรของรัสเซีย
หุ้นมิชลินของฝรั่งเศส ร่วง 7.2% หลังเปิดเผยว่าจะหยุดการผลิตชั่วคราวที่โรงงานในยุโรป เนื่องจากปัญหาด้านการขนส่ง