SINGER
มั่นใจยอดปล่อยสินเชื่อ Q1/65 ทะลุเป้ารับสัญญาณบวกต่อเนื่องจาก Q4/64
นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าในช่วงไตรมาส 1/65 บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มากกว่า 1 พันล้านบาท/ไตรมาส ซึ่งบริษัทเริ่มเห็นสัญญาณของความต้องการสินเชื่อที่มากขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/64 หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เข้มงวด ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศกลับมาเดินหน้า การจับจ่ายใช้สอยก็ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลดีต่อยอดขายสินค้าในร้านค้าของ SINGER อีกทั้งบริษัทยังคงมีการขยายสาขาเฟรนไชส์ต่อเนื่องเพื่อทำให้มีสาขาครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
ทั้งปี 65 บริษัทตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1.55 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 45% จากปีก่อนที่ 1.09 หมื่นล้านบาท ซึ่งนอกเหนือจากการเดินหน้าขยายแฟรนไชส์เพิ่มเป็น 7,000 สาขาแล้ว ความสามารถในด้านการเงินก็เพิ่มขึ้นจากเงินเพิ่มทุนของพันธมิตรที่เข้ามา ทำให้บริษัทมีความสามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น และมีต้นทุนทางการเงินลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการรุกตลาดมากขึ้นในปีนี้
ขณะเดียวกันการที่ JMART เปิดเปิดธุรกิจ เจ ดี ยังเป็นโอกาสที่ทำให้บริษัทสามารถนำสินค้าแบรนด์ของ SINGER ไปขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าดีลเลอร์ของร้านเจ ดี ได้อีกด้วย ซึ่งทำให้บริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นกว่าร้านค้าแฟรนไชส์ที่บริษัทมี ทำให้เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและการขยายสินเชื่อควบคู่กันไปด้วย
ด้านธุรกิจสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) ในปีนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มรถบรรทุกที่มีความต้องการใช้สินเชื่อค่อนข้างมาก โดยที่ในปี 65 บริษัทตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อรถทำเงินเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มีพอร์ตสินเชื่อรถทำเงินอยู่ที่ 6 พันล้านบาท
ส่วนการควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปี 65 บริษัทจะควบคุมให้อยู่ในช่วง 3.5-3.9% ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่อยู่ที่ 3.9% โดยที่แนวโน้มของการชำระหนี้ของลูกค้ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น ลูกค้าจำนวนมากกลับมาชำระคืนหนี้ได้ตามปกติ หลังจากเริ่มกลับมาทำงานและมีรายได้
ความคืบหน้าในการนำบริษัท เอส จี แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจโบรกเกอร์นายหน้าขายประกันของบริษัทนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยคาดว่าจะสามารถนำ เอส จี แคปปิตอล เข้าตลาดฯได้ภายในไตรมาส 3/65
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 68 จะมีพอร์ตสินเชื่อรวมขึ้นไปแตะระดับ 4 หมื่นล้านบาท จากการเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรุกขยายสาขาแฟรไชส์ที่ในปีนี้จะเพิ่มเป็น 7,000 สาขา ทำให้จะเป็นปัจจัยหนุนต่อการขยายสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไปที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เร่งการเติบโตของสินเชื่อให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไป