ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 300 จุด กังวลน้ำมันพุ่งกระตุ้นเงินเฟ้อฉุดเศรษฐกิจสะดุด  (อ่าน 339 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0
ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 300 จุด กังวลน้ำมันพุ่งกระตุ้นเงินเฟ้อฉุดเศรษฐกิจสะดุด

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 300 จุดในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลที่ว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะกระตุ้นเงินเฟ้อ และจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ณ เวลา 22.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,300.12 จุด ลบ 314.68 จุด หรือ 0.94%

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด ตามการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน

นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและพันธมิตรกำลังพิจารณาคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้

นักลงทุนยังคงจับตาวิกฤตยูเครน ขณะที่รัสเซียได้ส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเป็นวันที่ 12

ล่าสุด นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียพร้อมยุติปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครน "โดยทันที" หากยูเครนปฏิบัติตามเงื่อนไขของรัสเซีย

นายเพสคอฟกล่าวถึงรายละเอียดของเงื่อนไขต่างๆในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดเผยจุดยืนของรัสเซียที่ชัดเจนที่สุดนับตั้งแต่ที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครนในวันที่ 24 ก.พ.

ทั้งนี้ นายเพสคอฟระบุว่า เงื่อนไขที่ยูเครนจะต้องปฏิบัติตามเพื่อให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหาร ได้แก่ 1) ยูเครนจะต้องยุติการดำเนินการทางทหาร 2) ยูเครนจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การเป็นประเทศเป็นกลาง โดยยูเครนจะต้องปฏิเสธความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรใดๆ 3) ยูเครนจะต้องให้การรับรองว่าไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย 4) ยูเครนจะต้องให้การรับรองว่าสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์ เป็นรัฐอิสระ

นายเพสคอฟกล่าวว่า หากยูเครนยอมรับเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อดังกล่าว รัสเซียก็จะยุติปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครนโดยทันที

ตลาดจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ ซึ่งไม่รุนแรงเหมือนกับที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าจะปรับขึ้น 0.50%